สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -7.11 จุด แข็งกว่าหุ้นภูมิภาค มีกำลังภายในช่วยค้ำ

  SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1747-61 แม้ถูกกดดันจากการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังปธน.ทรัมป์ยังไม่พอใจผลการเจรจา แต่หุ้นไทยยังปรับตัวดีกว่าหุ้นภูมิภาค อานิสงส์คสช.เห็นชอบมาตรการช่วยทีวีดิจิทัลและศาลรธน.วินิจฉัยร่างพ.ร.ป.ที่มาส.ว.ไม่ขัดรธน. ต่างชาติขายสุทธิ 4.94 พันลบ. 5 วันติด และ Short S50 Futures 12,425 สัญญา 2 วันติด

ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นรีบาวด์กรอบแคบ FED ส่งสัญญาณไม่เร่งรีบขึ้นดบ.
  หุ้นโลกเมื่อวาน (23 พ.ค.) ปิดแตกต่างกัน หุ้นยุโรปดิ่งลงแรง กังวลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการจัดตั้งรัฐบาลต่อต้านยุโรปของอิตาลี นอกจากนี้ข้อมูล PMI ภาคอุตฯ เบื้องต้นของสหภาพยุโรปใน พ.ค. อ่อนแอกว่าคาด เพิ่มความกังวลต่อการขยายตัวของศก.ยุโรปที่มีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับลงในช่วงแรก ก่อนที่จะพลิกปิดตลาดแดนบวก หลังรายงานประชุม FED ครั้งก่อน (1-2 พ.ค.) ระบุจะปล่อยให้เงินเฟ้อขยายตัวออกจากกรอบเป้าหมาย 2% เป็น “เวลาชั่วคราว” จากศก.ยังฟื้นตัวดี  มอง SET มีลุ้นรีบาวด์ จาก FED ส่งสัญญาณไม่เร่งรีบขึ้นดบ.เร็ว กดดันให้ 10Y US Bond Yield ต่ำกว่าระดับ 3% โดยตลาดประเมินโอกาสการขึ้นดบ.ในการประชุม ธ.ค. ลดลงต่ำกว่า 50% มาที่ 46% สะท้อนช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ FED น่าจะขึ้นดบ.อีกเพียง 2 ครั้ง คือ มิ.ย. และ ก.ย. ประกอบกับศาลรธน.มีมติอย่างเอกฉันท์ว่า ร่างพ.ร.ป.ที่มาส.ว.ไม่ขัดต่อรธน. ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการเลือกตั้งในปีหน้า รอตีความร่างพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส.อีกครั้งใน 30 พ.ค. แนวรับ 1745-50 แนวต้าน 1760, 1770

กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูงเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว
  ตราบใดที่ SET ยังแกว่งไม่ต่ำกว่าระดับ 1745 นลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูง ยังเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว ลงซื้อ-ขึ้นขาย แบบไม่หวังส่วนต่างราคามาก  สำหรับนลท.ที่ Wait&See ก่อนหน้านี้ ยังรอซื้อที่ต่ำ แต่หาก SET รีบาวด์จนปิดเหนือระดับ 1775 ได้ มองจะเป็นจังหวะเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ เล็งเป้า SET ขึ้นทดสอบ 1790-1800

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick ROJNA – กำไรก่อนรายการพิเศษปี 18F หลังปรับผลกระทบทางบัญชีจากการขายหุ้น TICON คาดจะโตราว 40% ผลจากการรับรู้รายได้ backlog การขายที่ดิน และมีรายได้จากการขายไฟฟ้า SPP 3 เข้ามาแบบเต็มปี, ได้ประโยชน์จาก EEC และราคายังขึ้นช้ากว่าหุ้นในกลุ่มนิคมฯ ตัวอื่น ๆ, PER ปีนี้ไม่ถึง 10x ปีหน้าจะลดลงต่ำกว่า 9x และมีปันผลเฉลี่ย 5% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า, ปรับเป้าพื้นฐานใหม่ขึ้นเล็กน้อยเป็น 7.7 บ. / หุ้นงบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น - AH, BDMS, BLA, CHG, GOLD, PYLON, SAT / หุ้นคาดเข้า SET50 ชอบ BGRIM, RATCH / SET100 ชอบ ERW, PLANB, PRM, RS, THANI, VGI / พ.ร.บ.EEC มีผลบังคับใช้แล้วหนุนวงจรลงทุนรอบใหม่ กลุ่มรับเหมา CK, UNIQ, SEAFCO, PYLON นิคมฯ AMATA, ROJNA, WHA / หุ้นรับอานิสงส์บอลโลก ชอบ BJC, HMPRO, TRUE / MSCI ประกาศทบทวนหุ้น Global Standard มีผล 1 มิ.ย. เข้า 1 ตัว - LH ออก 2 ตัว - KCE, SCC-F Small Cap เข้า 6 ตัว - DDD, KCE, MONO, PRM, THG, TPIPL ออก 9 ตัว – BIG, EASTW, FSMART, GL, KTC, LHFG, MALEE, SAMART, TSE / หุ้นเก็บตกปิดงบ-ปันผลช้า – BLAND, BTS (งบปีสิ้นสุด มี.ค.) / TPIPL จะซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2.5 พันลบ. จำนวน 1,009 ล้านหุ้น รอประชุมผถห.อนุมัติ 25 มิ.ย.นี้ และจะเริ่มซื้อหุ้นคืน 16 ก.ค. – 15 ม.ค. / การฟื้นตัวต่อเนื่องของอุตฯ ยานยนต์ AH, PCSGH, SAT, NYT
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ CK (เป้าสั้น 26.5 บ.), PCSGH (8.8 บ.), PTG (20.5 บ.) / ถือ GPSC (83 บ.) / ขายเปลี่ยนตัว PYLON (-0.6%), WHA (+4.9%) / ขายตัดขาดทุน BEAUTY (-2.8%)
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BEAUTY, BTS, CPN, HMPRO, PLANB, QH

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research