“ น้ํามันร่วงแรง ”
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วันก่อนดีดตัวขึ้น +8.70 จุด (+0.50%) ปิดที่ 1,741 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท โดยแม้จะมีความกังวล Geopolitical risk เพิ่มขึ้นหลังสหรัฐยกเลิกการประชุมกับเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามได้แรงซื้อตามสัญญาณเทคนิคหลังไม่หลุด Low 1,725 จุดส่งผลให้ดัชนีรีบาวด์ปิดบวก โดยเป็นแรงซื้อในกลุ่ม Energy Prop และ Cons ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง 2,661 ลบ. , Net Short TFEX 4,916 สัญญา แต่เป็นฝั่งซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,513 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มองตลาดเป็นลบคาด SET อ่อนตัวสลับเด้งรีบาวด์แนวรับสำคัญ 1,725 – 1,730 จุด จากแรงกดดันราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงแรงหลุดต่ำกว่า 70 US/Barrel หลังซาอุฯและรัสเซียพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อชดเชยการผลิตที่ลดลงของอิหร่านและเวเนซุเอลาจากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร ประกอบกับแรงกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่อง ( Net sell 3.6 หมื่นลบ. MTD และ Net sell 1.1 แสนลบ. YTD ) อย่างไรก็ตามภาวะตลาดได้ปัจจัยบวกจากความคาดหวังการประชุมระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือในวันที่ 12 มิ.ย. จะเป็นไปอย่างราบรื่นหลังทีมเจ้าหน้าที่สหรัฐเดินทางถึงเกาหลีเหนือเพื่อเตรียมความพร้อมการประชุมแล้ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้มี technical rebound ในจังหวะที่อ่อนตัว
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS BH BCH CHG) หุ้น defensive stock ในภาวะตลาดผันผวน
กลุ่มรับเหมา อานิสงส์ Roadmap การเลือกตั้งคงเดิม และข่าว TOR รถไฟความเร็วสูงเชื่อม EEC คาดประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูล พ.ย.61
AMATA WHA ได้อานิสงส์กฏหมาย EEC มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 15 พ.ค.
IVL ราคาฝ้ายดีดตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ล่าสุด 89.2 US/Tons
หุ้นแนะนำวันนี้ : BCH (16.6 ซื้อ/เป้า 19) ซื้อสะสมหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลก่อนเข้าสู่ช่วง High season (หน้าฝนและหนาวในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ) โดยเรายังเลือก BCH เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มผลกำไรที่คาดว่าจะเติบโตมากที่สุดของกลุ่มในปีนี้ เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 1,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%yoy มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่เพิ่มขึ้นเพียง 16%yoy
ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน,อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์
Top picks ปีนี้ : BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, MTC, PTTGC, QH, และ SPALI
KSS report วันนี้ : CBG (ปิด 52.25 ถือ/เป้า 50), EA (ปิด 39.25 ซื้อ/เป้า 77)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+) ปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ดูผ่อนคลายขึ้น หลัง โดนัล ทรัมป์ ตกลงกลับมาเจรจากลับเกาหลีเหนืออีกครั้งในวันที่ 12 มิ.ย. : สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือดูผ่อนคลายขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือระบุพร้อมเปิดกว้างในการแก้ปัญหา ขณะที่โดนัล ทรัมป์ กลับลำและพร้อมที่จะจัดการเจรจากับเกาหลีเหนืออีกครั้งในวันที่ 12 มิ.ย. หลังจากที่ก่อนหน้า ทรัมป์ ประกาศยกเลิกการประชุมดังกล่าวเนื่องจากไม่พอใจที่เกาหลีเหนือยังดำเนินการอันเป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐ
(-) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน – ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงกว่า 2.83$/bbl กังวล OPEC เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยปริมาณการผลิตที่ลดลงของอิหร่านและเวเนซุเอลา : เมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.83 ดอลลาร์ หรือ 4% สู่ระดับ 67.88 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าการประชุมของ OPEC ในวันที่ 22 มิ.ย. อาจจะมีพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยปริมาณการผลิตและส่งออกที่ลดลงของอิหร่านและเวเนซุเอลาหลังจากมีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐจะคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของทั้ง 2 ประเทศ เบื้องต้นมีการคาดการณ์กันว่า ซาอุฯ และรัสเซียอาจเพิ่มการผลิตประมาณ 1 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อชดเชยปัญหาดังกล่าว
(+/-) สัปดาห์นี้ติดตาม ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสิน พ.ร.บ.ส.ส.ว่าจะขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีผลบวกและลบต่อ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป : ปัจจัยที่นักลงทุนเฝ้าจับตามากที่สุดในสัปดาห์นี้คือ การติดตามการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 30 พ.ค. เพื่อตัดสินว่า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบการได้มาซึ่ง ส.ส.ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเรายังคาดหวังเชิงบวกว่าผลการตัดสินน่าจะออกมาในทิศทางเดียวกับ พ.ร.บ.ส.ว. คือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หากเป็นไปตามที่เราคาดจะทำให้ Road map การเลือกตั้งยังคงเดิมและจะเป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนในระยะถัดไป
ข่าวเด่น