คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรฝั่งซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,292 1,280 1,271
แนวต้าน 1,307 1,315 1,325
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากระหว่างวันทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,306.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากความวิตกเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองในอิตาลี หลังความพยายามจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ประสบความล้มเหลว จนทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอิตาลีอาจต้องจัดการเลือกตั้งใหม่อย่างเร็วสุดในเดือนส.ค.นี้และการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้จะเสมือนการลงประชามติเกี่ยวกับบทบาทของอิตาลีในสหภาพยุโรป ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์ทางการเงินทั่วยุโรปรวมไปถึงดัชนีดาวโจนส์ให้ร่วงลงแรง อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของดอลลาร์ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนของยูโร รวมไปถึงแรงขายทำกำไรเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของราคาทองคำ ด้านกองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำวานนี้ +2.95 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, ประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีไตรมาส 1/2018, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าและรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ(Beige Book) และจับตาความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปอย่างใกล้ชิด
ปัจจัยทางเทคนิค
ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้าบริเวณ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว
ข่าวเด่น