คำแนะนำ
เปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,295-1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกชะลอการเปิดสถานะขายออกไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,292 1,280 1,271
แนวต้าน 1,307 1,315 1,325
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 1/2018 ที่ระดับ 2.2% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการครั้งแรกและต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.3% ด้านการจ้างงานของภาคเอกชนของสหรัฐจาก ADP เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดเช่นกัน ประกอบกับยูโรฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับการเมืองในอิตาลีจากความพยายามของพรรค 5 Star Movement (M5S) และพรรค Leagueในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีอีกครั้ง อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองใหญ่ของอิตาลีได้ช่วยกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ให้พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดและกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ อาทิ การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, ดัชนี PMI เขตชิคาโกและดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล(PCE)ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของเฟด
ปัจจัยทางเทคนิค
แม้จะมีแรงซื้อให้ราคาดีดตัวขึ้นแต่ยังคงเห็นแรงขายกดดันอย่างต่อเนื่อง หากการดีดตัวของราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านระดับ 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงสู่แนวรับ 1,295-1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นประเมินการเคลื่อนไหวของราคาในแบบของการแกว่งตัวเพื่อสะสมแรงซื้อหากยืนได้จะเกิดการดีดตัวขึ้นต่อ
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
การเข้าซื้อยังคงเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,295-1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจเสี่ยงพิจารณาในโซน 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากสามารถผ่านได้)
ข่าวเด่น