Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ผันผวนสูง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มพลังงานอย่าง PTT, PTTEP ภายหลังราคาน้ำมันดิบโลกฟื้นตัว ในขณะที่มีแรงซื้อใน BANPU หลังราคาถ่านหินปรับขึ้นอีกครั้ง และกลุ่มรถไฟฟ้ามีแรงซื้อเด่นใน BTS, BEM อย่างไรก็ตามมีแรงขายเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC, BGRIM, GULF และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, SCB, BBL ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,726 จุด (+1.8 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 9.9 หมื่นล้านบาท (Biglot VGI, BAFS มูลค่า 5.7 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานก่อนหน้าที่ 7.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 7,863 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 12,530 สัญญา
Investment theme
สรุปการลงทุนเดือนพ.ค.: ผ่านไปแล้วสำหรับการลงทุนเดือนพฤษภาคม ภาพรวม SET ปรับตัวลง 54จุด (-3%) สูงกว่าค่าเฉลี่ย MSCI Asia-Pacific Ex. Jap ที่ปรับตัวลงประมาณ 2% +/- สาเหตุหลักเกิดจาก Policy risk และราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ทีผ่านมากดดันกลุ่มพลังงาน และแรงขายในกลุ่มค้าปลีก ซึ่งมีผลต่อ SET สูงกว่า 1/3 ของมูลค่าหลักทรัพย์รวม โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิสูงกว่า 5.1หมื่นล้านบาท (สถาบันซื้อสุทธิ 2.9หมื่นล้านบาท) สอดคล้องกับการขายทำกำไรในภูมิภาคสูงกว่า 3.9พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการกลับตัวของดอลลาร์และ Bond yield สหรัฐ
กลยุทธ์เดือนมิ.ย.(ยังมีความเสี่ยง แต่ลงทุนได้) : สำหรับการลงทุนในเดือนมิถุนายนเรามองกรอบ SET บริเวณ 1,680-1,745 จุด โดยมองว่าตลาดหุ้นยังเผชิญกับปัจจัยกดดันจากต่างประเทศนำโดย 1) การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-ยุโรป-จีน ที่จะครบกำหนดในต้นเดือนมิ.ย. ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ในขณะที่การไม่ลงเอยกันในข้อตกลงนิเคลียร์อิหร่านระหว่างสหรัฐ-ยุโรป อาจส่งผลต่อการเจรจาการค้า 2) การประชุมใหญ่ OPEC ในวันที่ 22มิ.ย. เริ่มมีความไม่แน่นอนและคาดการณ์ลำบาก (จำนวนการผลิตที่ลดลงจาก Iran, Venezuela ) ในขณะที่เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการประชุม FED เพื่อปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 1.75-2.00% เนื่องจากตลาดให้โอกาสไปมากกว่า 88%แล้ว สำหรับปัจจัยในประเทศ เรามีมุมมองเป็นบวกอ่อนๆจากภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดหวังการประมูลและโครงการก่อสร้างจากภาครัฐ
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – มี Biglot VGI ราคาต่ำกว่ากระดานที่ 7.60 บาท จำนวน 469 ล้านหุ้น / จีนรายงาน PMI บริการ,ผลิต ปรับขึ้นเป็น 54.9 และ 51.9 ตามลำดับ / ยุโรปรายงาน CPI ที่ 1.9% / Trump กำลังพิจารณาออกกฎห้ามนำเข้าจากเยอรมัน
Stock pick : BANPU
IVL: ทยอยราคาเหมาะสม 70.0 บาท/หุ้น
Spread ของ PET , PTA สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นเด่นกว่า 333 เหรียญ/ตัน (+25%MoM) และ 154 เหรียญ ตามลำดับ ถือว่าดีมาก สนับสนุนจาก Seasonal Demand ในขณะที่ Supply เกาหลี, ไต้หวัน เกิด Shutdown
คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เติบโต YoY, QoQ จาก Seasonal ธุรกิจ PET และ PTA ในขณะที่กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น QoQ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสามารถรับรู้รายได้จาก M&G Chemical ประเทศบราซิล (กำลังการผลิต PET 550KTA/ปี คิดเป็น 12% ของกำลังการผลิตรวม) เบื้องต้นเราประเมิน Upside ต่อ EBITDA ประมาณ 4.5% ในปี 2562 หรือคิดเป็นประมาณ 1.5-2.0 บาท/หุ้น ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดบริษัทสามารถรับรู้กำไรจากการลงทุนใน Avgol 65.7% (กำลังการผลิตรวม 203KTA/ปี) ทำให้ทิศทางกำลังการผลิตของ IVL จะเพิ่มขึ้นรายไตรมาสไปจนถึงสิ้นปี
คาดกำไรจากการดำเนินงานปีนี้ เติบโตสูงกว่า 42% เป็น 2.06 หมื่นล้านบาท สูงที่สุดในอุตสาหกกรรม คงคำแนะนำ ซื้อ 70.0บาท/หุ้น
Trading idea – เก็งกำไร BANPU กรอบ 22.0 +/- และ เก็งกำไร SUPER 1.50-1.70 บาท
Technical View
จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสลดพอร์ต : แรงซื้อกลับจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนี Rebound กลับแต่ยังคงติดแนวต้านที่เส้น EMA 200วัน ที่บริเวณ 1730 แม้ Modified Stochastic เริ่มดีดตัวขึ้นจากแนว Oversold แต่เนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง จึงมองว่าจังหวะ Rebound คือ โอกาส Trading ในระยะสั้น หรือขายทำกำไรที่แนวต้านเพื่อลดพอร์ต
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขาย เพื่อลดพอร์ตการลงทุน เนื่องจากแนวโน้มเป็นขาลง 2) ไม่มีหุ้น: Trading เล่น rebound ในกรอบ 1720-1745 เน้นซื้อแนวรับ-ขายแนวต้าน
แนวรับ : 1720, 1715 แนวต้าน : 1745, 1760
Keep and eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war
ปัจจัยในประเทศ: 1 มิ.ย. รายงานเงินเฟ้อ
หุ้นเทคนิค:
IVL (B 57.00-58.00, Tp 60.00//62.00, Cut 56.00)
AOT (B 68.00, Tp 70.00, Cut 67.00)
ข่าวเด่น