คำแนะนำ
ซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวแนะนำเข้าซื้อหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,282-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,280 1,271 1,263
แนวต้าน 1,300 1,307 1,315
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 7.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการทะยานขึ้นกว่า 200 จุดของดัชนีดาวโจนส์ ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่พุ่งขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 188,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.8% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2000 รวมถึงต่ำกว่าที่คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ขณะเดียวกันตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานเพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 8 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% เช่นกัน ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในแง่ของตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งเกินคาด เป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และช่วยกระตุ้นการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งในการประชุมเดือนใกล้และเดือนไกลให้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,289.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันศุกร์ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำในวันศุกร์ -10.61 ตัน สำหรับวันนี้ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
แม้จะมีแรงซื้อให้ราคาดีดตัวขึ้นแต่ยังคงเห็นแรงขายกดดันสลับออกมาเช่นกัน หากการดีดตัวของราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านระดับ 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงสู่ระดับ 1,282-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์เช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เสี่ยงเปิดสถานะขายทำกำไรระยะสั้นในบริเวณ 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือถ้าเกิดการอ่อนตัวลงมาอาจเปิดสถานะซื้อใหม่หากราคาทองคำไม่หลุด 1,282-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามสถานะซื้อลดพอร์ตการลงทุนหากราคาหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น