สภาวะตลาดวันที่ 04 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,290.00-1,294.53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,700 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.43 น. ของวันที่ 04/06/61)
แนวโน้มวันที่ 05 มิถุนายน 2561
ข้อมูลในตลาดแรงงานเดือนพฤษภาคมของสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด เห็นได้จากอัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี ที่ 3.8% รวมถึงค่าจ้างเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสต่างๆรวมถึงการใช้จ่ายผู้บริโภค, การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการใช้จ่ายภาคก่อสร้าง บ่งชี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงไตรมาสสองของปี กระตุ้นคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 12-13 มิถุนายนและมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงก่อนหน้า จนกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตามนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดอาจจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจจะเริ่มยับยั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจเริ่มตั้งแต่ต้นปีหน้า ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ 6 สกุลขยับขึ้นได้ไม่ไกล เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและพันธมิตร ซึ่ง แคนาดา, เม็กซิโก และ สหภาพยุโรป (EU) ต่างออกมาประกาศแผนที่จะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีต่อสินค้าสหรัฐมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ แคนาดายื่นเรื่องคัดค้านการกำหนดภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของสหรัฐต่อองค์การการค้าโลก(WTO) และระบุว่าจะเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 20 ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟต้า) ในการตอบโต้ความเคลื่อนไหวของสหรัฐ ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนจับตาการประชุมผู้นำกลุ่ม G7 ที่ประเทศแคนาดา โดยจะเริ่มต้นในวันศุกร์ถึงวันเสาร์ เพื่อหารือในประเด็นการรับมือกับกำแพงภาษีของสหรัฐ ซึ่งหากราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,282-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จะเห็นการดีดตัวขึ้นระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว ราคาจะปรับตัวลงต่อ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,280 (19,350บาท) 1,271 (19,200บาท) 1,263 (19,050บาท)
แนวต้าน 1,300 (19,700บาท) 1,307 (19,800บาท) 1,315 (19,900บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,280 (19,490บาท) 1,271 (19,350บาท) 1,263 (19,230บาท)
แนวต้าน 1,300 (19,800บาท) 1,307 (19,900บาท) 1,315 (20,020บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999
ข่าวเด่น