คำแนะนำ
ราคายังมีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้าน 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านได้ให้แบ่งขายทำกำไร อย่างไรก็ตามหากไม่ผ่าน ประเมินแนวรับที่ 1,282-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,280 1,271 1,263
แนวต้าน 1,300 1,307 1,315
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 1.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวสูงขึ้นถึง 178.48 จุดของดัชนีดาวโจนส์ นำโดยการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะหุ้นแอปเปิลที่พุ่งขึ้นหลังจากบริษัทประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 12 ในงานประชุมผู้พัฒนาทั่วโลก(WWDC) นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมาของสหรัฐช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในปีนี้ ประเด็นเหล่านี้เป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่าราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังสกุลเงินยูโรแข็งค่าจากสถานการณ์ทางการเมืองในยุโรปคลี่คลายลง โดยอิตาลีสามารถปลดล็อกทางการเมืองที่ดำเนินมานาน 3 เดือน ด้านสเปน นายเปโดร ซานเชส ผู้นำพรรคสังคมนิยมได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน แทนที่นายมาริอาโน ราฮอย อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งถูกลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการและ JOLTS Job Openings ของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาพยายามขยับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาไม่มาก โดยในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลงในรูปแบบการพักฐาน อย่างไรก็ตามยังคงแนะนำจับตาแรงซื้อแรงขายอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากการอ่อนตัวลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,282-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อ
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น โดยแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,282-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ทยอยขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการไล่ซื้อบริเวณดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น