ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ (05/06/61)


 Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายพบแรงซื้อในกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, BBL และกลุ่ม ICT นำโดย ADVANC, DTAC กลุ่มอสังหาฯ  AP, QH, SIRI อย่างไรก็ตามกลุ่มค้าปลีกเผชิญกับแรงขายอย่างมีนัยยะนำโดย CPALL, BJC, HMPRO, BEAUTY และกลุ่ม TV-Digital อย่าง WORK, MONO ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,721 จุด (+1.47 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.3 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวานก่อนหน้าที่ 5.7 หมื่นล้านบาท 
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่  100 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,454 ล้านบาท) และกลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 447 สัญญา  

Investment theme
  ปัจจัยต่างประเทศ (-) ปัจจัยในประเทศ (+) : การลงทุนในเดือนมิถุนายน เราประเมินว่าตลาดหุ้นยังเผชิญกับปัจจัยกดดันโดยเฉพาะจากต่างประเทศนำโดย 1) Tradewar ภายหลังครบกำหนดการผ่อนปรน Trump ได้พิจารณาขึ้นภาษีนำเข้ากับยุโรป-แคนนาดาและเม็กซิโก ในขณะที่สัปดาห์หน้าจะครบกำหนดการเจรจากับประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป  2) ความไม่แน่นอนของการประชุม OPEC (เพิ่ม-ลดกำลังการผลิตจากเดิมที่ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน) และ 3) ประเทศในกลุ่ม Emerging market ยังคงเผชิญกับภาวะเงินทุนไหลออก ซึ่งประเด็นนี้เรามองผลกระทบจำกัดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค หากอิงจากดุลบัญชีเดินสะพัด , หนี้สินต่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ในขณะที่ปัจจัยในประเทศเราเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเดือนเมษายนพบว่า รายได้ภาคเกษตรฟื้นตัวเล็กน้อย (จาก -4.2% เป็น -0.7%), การบริโภคเอกชนเติบโต 5.8% (จาก 1.7%) โดยเฉพาะสินค้าคงทน, กึ่งคงทน เช่น กลุ่มยานยนต์, เสื้อผ้า และการลงทุนภาคเอกชนเติบโตสูงกว่า 7.0% (จาก -0.4%) ส่งผลให้เดือนมิ.ย.เราแนะหันมาทยอยสะสม Domestic play 
  Investment Theme:  แนะนักลงทุนถือเงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 40% ภายหลังปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,725 จุด โดยกรอบแนวรับ-แนวต้านบริเวณของ SET ในเดือนมิถุนายนบริเวณ 1,680-1,745 จุด แนะหันลงทุนกลุ่ม Defensive อย่างรถไฟฟ้า (BTS, BEM ), กลุ่มอสังหาแนวราบ (GOLD, LH)  พร้อมเก็งกำไรกลุ่มก่อสร้างโดยคาดเดือนนี้จะมีความคืนหน้าโครงการประมูล เช่น พระราม3 –ดาวคะนอง, ขายเอกสารคัดเลือกเอกชนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แนะเก็งกำไร CK, STEC 

Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – อินโดนีเซีย รายงานเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ที่ 3.23% YoY / มาเลเซียเผย PMI ภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ 51.5 / Brent ปรับตัวลงต่อที่ 75.5

Stock pick : EGCO
EGCO : ซื้อ 246.0 บาท/หุ้น 
  ภายหลังเกิดเหตุไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมีการพูดคุยถึงกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศที่มีโอกาสถูกแบ่งเป็นรายภาคอีกครั้ง ซึ่งหากรมว.พลังงานเห็นชอบจะนำไปสู่แผน PDP ใหม่ โดยปัจจุบันภาคใต้มีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองที่ต่ำ ซึ่งเรามองเป็นบวกต่อ EGCO สามารถขยายโรงไฟฟ้าขนอมได้อีก 1 หน่วย
  ภายหลังจากการขายสินทรัพย์ (MPPCL, EASTW, GDEC) รวมมูลค่าสูงกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท เรามองว่าบริษัทที่โอกาสนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในต่างประเทศเช่นในอาเซียน-ออสเตเรีย-อินเดีย รวมถึงจ่ายปันผลพิเศษซึ่งจะทำให้ Yield สูงกว่า 3.1%  คาดกำไรจากการดำเนินงาน 2Q61 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลหลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในรอบปี โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าหลักในประเทศ โดยเฉพาะ โรงไฟฟ้า KN4, BLCP และ GPG ที่ค่าไฟตามสัญญา จะสูงกว่าฤดูอื่นโดยเปรียบเทียบ
  ปัจจุบัน EGCO ซื้อขายที่ PER 11.9 เท่า และปันผลสูงกว่า 3.1% ถือว่าดีเมื่อเทียบกับกลุ่มโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ คงคำแนะนำซื้อด้วยราคาเหมาะสม 246.0 บาท/หุ้น

  Trading idea – ซื้อ GOLD ราคาเป้าหมาย 13.30 บาท/หุ้น เก็งกำไร IVL (คาดผลประกอบการ 2Q เด่นจาก Spread PET )

Technical View


  หากหลุด Low Downside จะเปิดมากขึ้น:  แรงขายหลักจากหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ทำให้ดัชนีแกว่งทรงตัวในกรอบ 1710-1730 ประกอบกับสัญญาณลบใน MACD ที่ยังคงอยู่ใต้เส้น Signal จึงมองว่าขณะนี้ดัชนีมีความเสี่ยงหลุด Low เดิมที่บริเวณ 1710 ซึ่งหากหลุด Downside จะเปิดมากขึ้น มีแนวรับถัดไปที่ 1700 (กรอบล่าง Downtrend) จึงมองว่าจังหวะ Rebound คือ โอกาสขายทำกำไรที่แนวต้านเพื่อลดพอร์ต มองแนวต้านเป็นขั้นๆที่ 1730 และ 1745 กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขาย เพื่อลดพอร์ต หากหลุด 1710 แนะนำ Stop Loss  2)  ไม่มีหุ้น: Trading เล่น Rebound ในกรอบ 1710-1730 เน้นซื้อแนวรับ-ขายแนวต้าน
  แนวรับ : 1710, 1700 แนวต้าน : 1730, 1745

Keep an eye on...
  ปัจจัยต่างประเทศ:  จับตาปัญหา Trade war / สหรัฐรายงานตัวเลขการค้า 6 มิ.ย.  / 8 มิ.ย. จีนรายงานตัวเลขการค้า
  ปัจจัยในประเทศ: -  

หุ้นเทคนิค:
  PTTEP (B 133.00-134.00, Tp 140.00//145.00, Cut 131.00)
  AOT (B 69.00, Tp 72.00, Cut 68.00)


บันทึกโดย : วันที่ : 05 มิ.ย. 2561 เวลา : 09:25:22

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:23 am