|
|
|
|
|
|
ราคาน้ำมันดิบและกลุ่มพลังงานยังคงถูกกดดันก่อนการประชุมโอเปก
แม้ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ แข็งแกร่ง แต่การแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จำกัดจากประเด็นกดดันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณการโต้กลับจากกลุ่มพันธมิตรทางการค้าของสหรัฐฯ (allies strike back) รวมถึงคำแถลงการณ์ล่าสุดของเฟดที่ระบุว่าจะลดระดับการใช้มาตรการทางการเงินในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อลงถือเป็นประเด็นบวกก่อนการประชุมเฟด 13 มิ.ย. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากความกังวลโอเปคจะเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อชดเชยกำลังการผลิตของอิหร่าน ในการประชุมโอเปค 22 มิ.ย.นี้
ตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่ง และฟื้นในกรอบจำกัด ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยลบภายนอกเป็นหลัก รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่กดดันต่อหุ้นพลังงาน อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดหุ้นจะได้รับแรงหนุนระยะสั้นจากการทำปิดช่วงกลางปีของนักลงทุนสถาบัน (Window dressing) ทำให้เม็ดเงินบางส่วนที่มีโอกาสหมุนเข้าสู่หุ้นกลุ่มธนาคาร (ราคาสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว), การบิน (ราคาน้ำมันดิบปรับลง) กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จะเน้นเชิงรับผ่านการ selective buy ในกลุ่มหุ้น Window dressing อย่าง BBL, KTB, KBANK, AAV หรือ ที่มีแนวโน้มแกร่งกว่าตลาด อาทิ รวมทั้งหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ SAT*, VIBHA*, BDMS, CK, STEC, PYLON, MBK*, BLAND*, GUNKUL*, SAPPE ขณะเดียวกันแนะหลีกเลี่ยงการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มส่งออกจาก sentiment การค้าโลกที่ปรับเข้าสู่เชิงลบ ขณะที่ภาพทางเทคนิค SET Index จะกลับเป็นบวกได้ ควรกลับไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (1730 จุด)
Investment Theme คาดเกิด switching จากพลังงานและหุ้นที่ขึ้นเยอะไปยังตัวที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงธนาคารและหุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันลง // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) PTT 2) IVL 3) BANPU // กลุ่มธนาคาร ชอบได้แก่ BBL, KTB, SCB // หุ้นกลุ่มไฟฟ้า BCPG, BGRIM, GULF*, EA // ผลการดำเนินงานผ่านจุดแย่สุด BANPU, BPP*, SAPPE, GUNKUL*, MONO*
ภาพรวมกลยุทธ์: เก็งกำไรการฟื้นตัวในกรอบ 1700-1750 และกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ BANPU, KBANK / เก็งกำไร EA* (เป้า 45 ตัดขาดทุน 37.00), AAV* (เป้า 6.00 ตัดขาดทุน 5.50)
แนวรับ 1711 / แนวต้าน : 1730-1735 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
เกาหลีใต้เตือนแบงก์ชาติทั่วโลกอาจแห่ยุติอัดฉีดสภาพคล่อง – เกาหลีใต้เตือนแบงก์ชาติทั่วโลกอาจแห่ยุติอัดฉีดสภาพคล่องหลังเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากที่เฟดเริ่มปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดการเงินทั่วโลกลดลง
ราคาน้ำมันปรับตัวลงต่อเนื่อง – ราคาน้ำมันร่วงต่อจากความวิตกเกี่ยวกับการผลติตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 22 มิ.ย.นี้ เพื่อสกัดความร้อนแรงของราคาน้ำมัน และชดเชยการผลิตที่ลดลงของอิหร่านและเวเนซุเอลา
พลังงานแจงเงื่อนไขชิงบงกช-เอราวัณ – กรมเชื้อเพลิงจัดสัมมนาแจงข้อมูลให้ผู้เข้าร่วมประมูลแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณ-บงกช เผยเงื่อนไขสำคัญต้องให้หน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจถือหุ้นร่วม 25% ก่อนทำข้อเสนอผลประโยชน์ยื่นภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้
เร่งประมูล5โครงการอีอีซี ดัน อู่ตะเภา – กพอ.สั่งเร่งประมูล 5 โครงการลงทุนในอีอีซี มูลค่า 6 แสนล้านบาทปีนี้ พร้อมยกระดับ "อู่ตะเภา" สู่มหานครการบินภาคตะวันออก เชื่อมโครงการรถไฟความเร็วสูงและพัฒนาเมืองโดยรอบให้สอดคล้องส่วนโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เริ่มขั้นตอนประมูล ก.ค.นี้ เฟส 2 เปิดเอกชนรายอื่นนอกจากการบินไทยเข้าลงทุน
ประเด็นติดตาม: 5 มิ.ย. – ประชุม กกร. / 12 มิ.ย. – การหารือทรัมป์-คิม จอง อึน / 13 มิ.ย. – ประชุมเฟด / 22 มิ.ย. – ประชุมโอเปค / 22 มิ.ย. – TH ศาลฯพิจารณารับคำฟ้องการยึดอำนาจของคสช.
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ) |
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
05 มิ.ย. 2561 เวลา : 09:38:02
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น