“รอปัจจัยใหม่”
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 1.47 จุด (+0.09%) ปิดที่ 1,721 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,420 ล้านบาท ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดี อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง รวมถึงปัญหาสงครามการค้าระหว่างประเทศยังคงกดดันต่อดัชนี ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย 101 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 8,138 ล้านบาท และ Net Long TFEX 447 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มีมุมมองเป็นกลาง คาดดัชนีวันนี้แกว่งตัว 1,715-1,730 จุด เนื่องจากมีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้า โดยการเมืองในอิตาลีได้นายกฯรัฐบาลผสม นายจูเซปเป คอนเต ซึ่งเป็นการปลดล็อกทางการเมืองที่ยืดเยื้อมากว่า 3 เดือน รวมถึงแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ชะลอการขายลงโดยเป็น Net sell เพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามความกังวลสงครามการค้าที่ขยายวงกว้างขึ้นซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือนหลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งสูงสุดทำสถิติรวมถึงคาดการณ์กลุ่มโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุม 22 มิ.ย. ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อดัชนี
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy
BANPU LANNA ราคาถ่านหินพุ่งสูงสุดในรอบ 18 เดือนล่าสุดพุ่งแตะระดับ 113.3 US/Tons
กลุ่มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว (Bottom out) อาทิ CPF BANPU TKN EPG และ ANAN
GOLD GULF MBK THG เข้า FTSE SET Mid Cap Index มีผล18 มิ.ย.
คาดหุ้นเข้า SET50 : KTC, DELTA, TOA, GLOW, BGRIM หุ้นออก SET50 : KCE, SAWAD, PSH, BCP, CBG
หุ้นแนะนำวันนี้ : MINT (ปิด 33.25 ซื้อ/เป้า 45) ราคาลดลงแรงกว่า 17% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการเข้าซื้อหุ้น NH Hotel Group ในสเปนอาจจะต้องเพิ่มทุน อย่างไรก็ตามวานนี้คุณ William Heinecke CEO ของ MINT ให้สัมภาษณ์ กับทาง Bloomberg ว่า Deal ดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนคาดว่าประเด็นนี้น่าจะคลายกังวลให้กับตลาดและหนุนให้ราคา MINT กลับมาฟื้นตัว
ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน,อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์
Top picks ปีนี้ : BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, MTC, PTTGC, QH, และ SPALI
KSS report วันนี้ : EPG (ปิด 7.85 ซื้อ/เป้า 9.0), IT (ปิด 4.48 ซื้อ/เป้า 6.0)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+) ดาวโจนส์บวก 178 จุด จากหุ้นเทคโนโลยี เป็นผลบวกเฉพาะตัวของอเมริกา : ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์เพิ่มขึ้น178 จุด ปิดที่ 24,814 จุด เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเรามองเป็นปัจจัยบวกเฉพาะตัว นำโดยหุ้นแอปเปิลปิดบวก 0.8% ตอบรับข่าวประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 12 ในงานประชุมผู้พัฒนาทั่วโลก (WWDC) เมื่อวานนี้ และหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.9% หลังจากบริษัทประกาศเข้าซื้อกิจการ GitHub ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐ
(-) กังวลสหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มและโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตกดดันราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 64.75 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดนำสองปัจจัยที่กดดันตลาดในช่วงก่อนหน้ามารวมเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดในค่ำคืนที่ผ่านมา คือ 1)กังวลสหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่ม และคาดว่าจะก้าวเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 1 ของโลกในช่วงปลายปีนี้ และ 2) กังวลโอเปกจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยการผลิตที่หายไปของอิหร่านและเวเนซุเอล่า โดยโอเปกจะนัดประชุมในช่วงวันที่ 22 มิ.ย.นี้
(+) ตลาดฯประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่เข้าคำนวณดัชนี FTSE Russell รอบใหม่มีผลตั้งแต่ 18 มิ.ย.ปีนี้ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 18มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป แบ่งเป็น
ดัชนี FTSE SET Large Cap Index ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 4 หลักทรัพย์ใหม่เข้าร่วมคำนวณ คือ GOLD, GULF, MBK, และ THG
ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 24 หลักทรัพย์ใหม่เข้าร่วมคำนวณ คือ ADVANC, AH, AJA, DDD, EGCO, ESSO, GLANDRT, GLOW, HUMAN, IRPC, IVL, JWD, LALIN, QHPF, SITHAI, SKN, SKR, SPCG, SW, SVI, THG, TR, WHA และ WP
ข่าวเด่น