Market View : มองกรอบบน
หุ้นแนะนำพิเศษ : SAPPE
หุ้นมีข่าว : MINT IRPC KTB
Technical Insight : SIRI EPG
SET Index วานนี้ฟื้นตัวต่อและตามด้วย Sideway แดนบวก ท่ามกลางการเลือกตั้งในประเทศชัดเจนมากขึ้น หนุนหลักโดยกลุ่ม ENERG จากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว (PTTEP PTT) ตามมาด้วยกลุ่ม ICT หลัง กสทช.แนะผู้ประกอบการควรเข้าประมูล ตามมาด้วยกลุ่ม FOOD หลัง MINT เริ่มผ่อนคลายความกังวลเพิ่มทุน โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,738.70 จุด (+5.99 จุด) Volume 5.88 หมื่นลบ. ทั้งนี้เป็น Foreign Net -941.42 ลบ. TFEX Net +9,561 สัญญา ตราสารหนี้ +14,709.96 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปิดทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนโดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารจากคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
+สหรัฐเจรจาเกาหลีเหนือ หวังออกแถลงการณ์ร่วมหลังประชุมซัมมิตสัปดาห์หน้า
+ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 2.1% สู่ระดับ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน
+ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในไตรมาส 1
-น้ำมันดิบปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน EIA เผยว่า สต็อกน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.32 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท31.90 บาท/USD
**จับตาประชุม ECB สัปดาห์หน้า 14 มิ.ย. หลังเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณลดวงเงิน QE
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน การที่สหรัฐขาดดุลการค้าลดลง การประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นได้ตามแผน โดยมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลงแตะระดับต่ำสุดใน การปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นภูมิภาคที่ผันผวน รวมทั้ง fund flow ไหลออก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,730-1,750 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- PSL ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น +29% ใน 5 วันที่ผ่านมาสู่ระดับ 1,340 จุด
- GOLD GULF MBK THG หุ้นเข้าคำนวณ FTSE SET Mid Cap Index มีผล 18 มิ.ย.
- UVAN เก็งครม.ออกมาตรการช่วยเหลือการส่งออกน้ำมันปาล์ม
- GGC EA เดือนก.ค.รัฐปรับเพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลจาก B7 เป็น B20
- หุ้นที่ Laggard ดัชนี CPF CK STEC UNIQ
- JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต
- BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 112.8$/Ton
หุ้นมีข่าว
- MINT (ราคาปิด 35.75 บาท Bloomberg Consensus 45.41 บาท) เตรียมทุ่มงบลงทุนรวม 8.55 หมื่นล้านบาท เข้าซื้อหุ้นใน NH Hotel Group ทำธุรกิจโรงแรมในยุโรป หลังทำรายการเสร็จถือหุ้นเพิ่มเป็น 100% จ่อขอออกหุ้นกู้อีก 5 หมื่นล้านบาท ชงที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติวันที่ 9 ส.ค.นี้ เวลา 9.30 น. (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
- ความเห็น แผนการเข้าซื้อหุ้น NH Hotel Group ดังกล่าวของ MINT เกิดขึ้นภายหลังจากบริษัทได้ถือหุ้นปัจจุบันที่ 9.4% เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 61 โดยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน ตามลำดับ คือ 1) เข้าซื้อสัดส่วน 16.8% ที่ราคาหุ้นละ 6.4 EUR หรือคิดเป็น 1.59 หมื่นล้านบาท คาดจะเข้าทำรายการเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 15 มิ.ย. 61 จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 26.2% 2) การเสนอซื้อ (Takeover bid) ในสัดส่วน 65.4% ที่ราคาหุ้นละ 6.4 EUR คิดเป็นเงิน 6.5 หมื่นล้านบาท คาดจะสามารถเข้าทำรายการได้ภายในเดือน ก.ย. 61 และ 3) เข้าซื้อหุ้นอีก 8.4% ที่ราคาหุ้นละ 6.1 EUR (อาจเปลี่ยนแปลงหากมีการจ่ายเงินปันผล) หรือเป็นเงิน 7.59 พันล้านบาท
- ทั้งนี้ การเข้าซื้อทั้งสิ้น 100% ดังกล่าวข้างต้นนั้น เป็นไปตามกฎหมายการป้องกันการ Take over ขณะที่เป้าหมายการถือหุ้นที่แท้จริงของ MINT อยู่ที่ราว 51 – 55% ซึ่งบริษัทจะใช้เครื่องมือเชิง Qualitative ในการให้ได้มาซึ่งสัดส่วนเป้าหมาย ทั้ง 1) ดราคาการเสนอซื้อที่อยู่ในระดับใกล้เคียงราคาซื้อขายในตลาดปัจจุบันของ NH Hotel Group 2) การกำหนดจุดยืนภายหลังได้ Management Control ว่าจะยังจดทะเบียนในตลาดต่อไป และ 3) การมี Strategic partner เข้ามาร่วมลงทุนด้วยบางส่วน โดยรวมจะเป็นผลให้ MINT มี IBD/Equity อยู่ที่ 1.2 – 1.3 เท่า จากปัจจุบันที่ 0.94 เท่า และยังคงต่ำกว่า Legal Debt Covenant ที่ 1.75 เท่า สะท้อนความเสี่ยงด้านการเพิ่มทุนที่ผ่อนคลายลง ส่วนด้านการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร เบื้องต้น Bloomberg Consensus ได้คาดการณ์ว่าภายใต้ ศก.ยุโรปที่ฟื้นตัว การท่องเที่ยวที่เติบโต น่าจะส่งผลให้มีส่วนแบ่งกำไรหลังหักดอกเบี้ยเงินกู้มาราว 5 - 6 ร้อยล้านบาท (เต็มปี) จึงอาจเป็นโอกาสให้หาจังหวะเข้า “ซื้อเก็งกำไร”
- +MOONG (ราคาปิด 6.70 ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่างการปรับประมาณการในทางบวก) คาดยอดขาย Q2/61 สูงกว่า Q2/60 หลังส่งสินค้าใหม่ เล็งขยายตลาดไปเมียนมาและกัมพูชา (ที่มา : IQ)
- ความเห็น : ช่วง 1Q61 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32 ลบ. เติบโตสูงถึง 70 %YoY เนื่องจากรายได้ของบริษัทมีการเติบโตราว 11 %YoY จากช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทอาทิ Modern Trade+9%YoY Traditional Trade +16%YoY และบริษัทสามารถขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในสินค้าแม่และเด็ก โดยสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 9.5 % เมื่อเทียบกับตลาดโดยรวมที่เติบโตเพียง 3.2% ประกอบกับฐานของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทพีเจ้นคอร์ปที่ต่ำใน 1Q60 กำไรสุทธิปี 61 อยู่ระหว่างทบทวนเพื่อปรับประมาณการในเชิงบวก เนื่องจากคาดว่าจะสามารถทำได้ดีกว่าที่คาด
- - KTB (ราคาปิด 17.90 ถือ Bloomberg Consensus 20) ยอมรับแก้หนี้เสียไม่ตกจากปัญหาลูกค้ากลุ่มโรงสี แนวโน้มพุ่งต่อ แต่คาดว่าจะไม่เกิน 5% จากกลุ่มโรงสี ลานมันสำปะหลัง ส่วนหนี้ EARTH จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาทอยู่ในกระบวนการทางศาล Q2 ยังต้องตั้งสำรองเพิ่ม ส่วนแนวโน้มสินเชื่อเริ่มฟื้นเป็นบวก ทั้งปีคาดโต 6-7% (ที่มา ข่าวหุ้น
- ความเห็น คาดว่าความกังวล NPL จะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นในช่วงนี้ ผนวกกับยังไม่มีความชัดเจนว่าการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 จะเลื่อนหรือไม่ ทั้งนี้ %NPL ณ ปลาย Q1/61 อยู่ที่ 4.33% เพิ่มขึ้นจาก 4.19% ณ ปลายปี 60 โดยมี Coverage Ratio ทรงตัวที่ระดับ 120% ต่ำกว่า Peer ที่ราว 130 – 140% KTB เป็นแบงก์รัฐที่จะได้ประโยชน์จากการเร่งประมูลโครงการขนาดใหญ่ส่งผลให้ในอนาคตสินเชื่อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นเมื่อเริ่มเบิกจ่ายเงินกู้ แนะนำถือ เนื่องจากมี yield 4% สูงสุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่
- + ANAN (ราคาปิด 4.54 Bloomberg Consensus 4.67) โชว์แบ็กล็อกล่าสุด 53,600 ล้านบาท ทยอยกินยาว ลุยโอน “แอชตัน จุฬา-สีลม” มูลค่า 8,500 ล้านบาท หลังกวาดยอดขายแล้ว 85% ของมูลค่าโครงการ พร้อมคงเป้ารายได้ปีนี้ 38,000 ล้านบาท โต 150% จากปีก่อน (ที่มา ข่าวหุ้น)
- + S (ราคาปิด 3.26 Bloomberg Consensus 5) ปักธงผลงานปี 2562 โดดเด่น รายได้พุ่ง 20,000 ล้านบาท จ่อรับรู้รายได้โรงแรมครบ 39 แห่ง หลังคาดเข้าซื้อโรงแรมเอาท์ริกเกอร์ 6 แห่งเสร็จเดือนนี้และบุ๊กรายได้ทันที โชว์แบ็กล็อก 10,000 ล้านบาท บันทึกส่วนใหญ่ปี 2562 (ที่มา ข่าวหุ้น)
- + INET เล็งตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ด้าน Data Center ครั้งแรกในประเทศไทย มูลค่า 3 พันล้านบาท ในช่วงต้นปี 2562 หวังระดมทุนใช้หนี้ ลด D/E เหลือ 0.50-0.8 เท่า ปักธงยอดขายปีนี้เติบโต 30% ทะลุ 1.4 พันล้านบาท ลุยขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง จ่อหาโอกาสขายหุ้น NETBAY รับเงิน 200-300 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
- IRPC นักกฎหมายยืนยัน ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งรับฟ้องกรณี ปปช.ยื่นฟ้อง “ทักษิณ” เกี่ยวกับแผนฟื้นฟูฯ TPI (ปัจจุบันคือ IRPC) ไม่มีผลกระทบการดำเนินงาน หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ใน IRPC แน่นอน เผยประเด็นนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินเคยร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2547 และศาลฯ วินิจฉัยแล้วว่าไม่ผิด ขณะที่กระทรวงการคลังเข้าไปดำเนินการตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง (ที่มา ข่าวหุ้น)
หุ้นแนะนำพิเศษ
SAPPE Opportunity Day (ราคาปิด 28.5 Bloomberg Consensus 31.68 บาท)
กำไรสุทธิ 1Q61 เติบโตโดดเด่นที่ 117 ลบ. +140 %YoY +53 %QoQ โดยได้แรงหนุนจากยอดขายต่างประเทศที่เติบโตสู่ 484 ลบ. +90 %YoY โดยเฉพาะตลาดเอเชียและตะวันออกกลาง ช่วยหนุนให้รายได้รวมอยู่ที่ 702 ลบ. +41 %YoY ขณะที่ COGS ต่อรายได้และ %SG&A ต่อรายได้ปรับตัวลงเหลือ 58 % และ 11 % ตามลำดับเมื่อเทียบกับ 1Q60 ที่ 62% และ 14% ตามลำดับ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสู่ 16% จาก 10% เมื่อเทียบ YoY
บริษัทวางเป้าหมายเติบโตของรายได้ในอีก 3 ปีต่อจากนี้ปีละ 10 – 15% โดยเน้นขยายตลาดไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันส่งออกไปแล้วกว่า 80 ประเทศทั่วโลก และมีประเทศที่เป็นตลาดหลักเพิ่มขึ้นจาก 5 ประเทศเป็น 7 ประเทศ (บริษัทเรียกประเทศเหล่านี้ว่า GEMS) และมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10 – 20 % จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.3 แสนตัน/ปี คาดจะแล้วเสร็จใน 3Q61 พร้อมทั้งมีแผนขยายตลาดเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวภายใต้แบรนด์ Zea Max (เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เนื้อปลาเป็นวัตถุดิบ 95%) ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในเดือนก.ค.
ความเห็น : การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องได้ทั้งปีเนื่องจากประเทศ GEMS ของบริษัทเพิ่มขึ้นสู่ 7 ประเทศ ซึ่งประเทศเหล่านี้สินค้าติดตลาดแล้วหากมีการกระจายสินค้าได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นจะทำให้ยอดขายเติบโตได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งบริษัทเตรียมยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 10-15% เพื่อรองรับการเติบโตของกาส่งออกจากที่ 2Q60 บริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทัน ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปี 61 จะอยู่ที่ 441 ลบ. เติบโต 10 %YoY
ข่าวเด่น