คำแนะนำ
เข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,282 1,271 1,263
แนวต้าน 1,307 1,315 1,325
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว หลังจากในระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบ 1,294 -1,303 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนแรงซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขาย(Short Covering), การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรท่ามกลางการคาดการณ์มากขึ้นว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะส่งสัญญาณเกี่ยวช่วงเวลาในการยุติการเข้าซื้อพันธบัตร(QE)ในการประชุมสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำค่อนข้างจำกัดเช่นกัน หลังสินทรัพย์เสี่ยงอย่างดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นวานนี้อีก 95 จุด นอกจากนี้นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์และผู้นำเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิ.ย. รวมถึงสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(FED)ในช่วงครึ่งปีหลังในการประชุมวันที่ 12-13 มิ.ย. และแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในการประชุมวันที่ 14 มิ.ย. สำหรับวันนี้จับตาเป็นพิเศษสำหรับการหารือประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและชาติพันธมิตรในการประชุมสุดยอดผู้นำ G-7 ในวันศุกร์และเสาร์นี้ที่เมืองควิเบคของแคนาดา
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำสามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่มาก และการอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น