ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำมีการดีดตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ โดยไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,303 เหรียญ หลังจากที่ค่าเงินยูโรทะยานขึ้นเหนือ 1.18 ดอลลาร์/ยูโรอีกครั้ง ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงปรับตัวลงต่อประมาณ 0.2% มาแถวระดับ 93.43 จุดในเช้านี้ ทางด้านค่าเงินบาทเองเคลื่อนตัวในกรอบ 31.90 – 32.10 บาท/ดอลลาร์ โดยที่วันนี้ค่าเงินบาทกลับอ่อนค่าขึ้นมาได้เล็กน้อย และเริ่มมาทดสอบ 32.00 บาท/ดอลลาร์ได้อีกครั้ง สำหรับตัวเลข Unemployment Claims เมื่อวานยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ระดับ 222,0000 ราย ซึ่งยังคงเป็นระดับต่ำสำหรับกลุ่มผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ทางด้าน SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 832.59 ตัน สำหรับการประชุม G7ตลาดให้ความสนใจไปยังประเด็นทางการค้าและการพบกันระหว่าง นายทรัมป์ และนายคิม จอง อึน สัปดาห์หน้า
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคายยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways เช่นเดิมระหว่าง 1,290 – 1,302 เหรียญ รอปัจจัยใหม่ๆมาเกื้อหนุน และตลาดน่าจะยังเคลื่อนไหว Sideways เช่นเดิม สำหรับภาพของราคาทองคำระยะกลางและระยะยาวยังเป็นทิศทางขาลง ดังนั้น จึงเน้นเป็นกลยุทธ์ทำกำไรกรอบแคบๆ ลักษณะ Sideways โดยเน้นเป็นกรอบขาลง ขณะที่ Gold D คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,290 เหรียญ และแนวต้าน 1,302 เหรียญ และ Gold Comex คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 1,293 เหรียญและแนวต้าน 1,304 เหรียญ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรระยะสั้นๆตามการแกว่งตัวในกรอบแคบ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะปิดสถานะ ลดความเสี่ยงจากตลาด
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทำกำไรสั้นๆ หาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคาดีดตัว และซื้อปิดเมื่อราคาอ่อนตัว
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
Wait&See บริหารพอร์ตสมดุล โดยภาพหลักระยะยาวของทองคำยังเป็นทิศทางขาลง รอประชุมเฟดสัปดาห์หน้า
Gold Futures M18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,860 บาท
Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,920 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ข่าวเด่น