Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ ภายหลังเกิด Technical rebound ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย พบแรงซื้อในกลุ่มส่งออกสินค้าไปจีนอย่าง CBG, BEAUTY, DDD และกลุ่มปิโตรอย่าง PTTGC, IVL กลุ่มนิคมอย่าง WHA, AMATA  อย่างไรก็ตามเกิดแรงขายในกลุ่มพลังงานนำโดย PTT, PTTEP, BANPU ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,733 จุด (-5.6 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.0 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวานก่อนหน้าที่ 5.8 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่  2,424 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,135 ล้านบาท) และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 1,047 สัญญา

Investment theme
  ติดตามตัวเลขการค้าจีน   : Tradewar หรือ สงครามการค้าโลก ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันการลงทุนโลก ซึ่งล่าสุดสหรัฐได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทอย่างเหล็กและอลูมิเนียมกับยุโรป แคนนาดา และแม็กซิโกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราแนะให้นักลงทุนจับตาการประชุม G7 ของหลายประเทศชั้นนำของโลก (ยุโรป-ญี่ปุ่น-สหรัฐ) ที่แคนนาดาในสุดสัปดาห์นี้ คาดจะมีการกล่าวถึงประเด็นการค้าโลกเพื่อเร่งหาทางออก และสำหรับสหรัฐได้รายงานตัวเลขดุลการค้าเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าขาดดุลการค้าลดลงเหลือ 4.62 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามพบว่าดุลการค้ากับจีนขาดดุลสูงกว่า 2.8 หมื่นล้านเหรียญ (+8.1%) สาเหตุจาการส่งออกสินค้าจากสหรัฐไปจีนลดลงสูงกว่า 17% เราแนะจับตาการรายงานตัวเลขดุลการค้าของจีนในวันนี้เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นปัจจัยกดดันให้สหรัฐอาจพิจารณาไม่ผ่อนผันเกณฑ์ภาษีนำเข้าสินค้าที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ได้ 
  Investment Theme:  แนะนักลงทุนถือเงินสด 40% โดยกรอบแนวรับ-แนวต้านบริเวณของ SET ในเดือนมิถุนายนบริเวณ 1,680-1,745 จุด แนะหันลงทุนกลุ่ม Domestic & Defensive อย่างรถไฟฟ้า (BTS, BEM ), กลุ่มอสังหาแนวราบ (GOLD, LH)  พร้อมเก็งกำไรกลุ่มก่อสร้างโดยคาดเดือนนี้จะมีความคืนหน้าโครงการประมูล เช่น พระราม3 –ดาวคะนอง, ขายเอกสารคัดเลือกเอกชนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แนะเก็งกำไร CK, STEC กลุ่มค้าปลีก HMPRO

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา – SCB ตั้งคุณบุญทักษ์ เป็นกรรมการ  / ประธานสภาสหรัฐเผยเตรียมพิจารณาร่างกฎหมาย เพื่อกำหนดให้สภาต้องเห็นชอบก่อนที่ Trump จะออกกฎหมายขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศอื่นๆ / Brent ปรับตัวขึ้นที่ 77.4เหรียญ

Stock pick : IVL
IVL: ทยอยสะสม ราคาเหมาะสม 70.0 บาท/หุ้น 
  อุปทาน Polyester ที่ตึงตัว สนับสนุนจาก Seasonal Demand ในขณะที่ Supply เกาหลี, ไต้หวัน เกิด Shutdown รวมถึงผลกระทบจากมาตรการป้องกันการทุ่มตลาดของสหรัฐ ส่งผลให้ Spread ของ PET , PTA สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นเด่นกว่า 333 เหรียญ/ตัน (+25%MoM) และ 154 เหรียญ ตามลำดับ ถือว่าดีมาก 
คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เติบโต YoY, QoQ จาก Seasonal ธุรกิจ PET และ PTA ในขณะที่กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น QoQ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสามารถรับรู้รายได้จาก M&G Chemical ประเทศบราซิล (กำลังการผลิต PET 550KTA/ปี คิดเป็น 12% ของกำลังการผลิตรวม) เบื้องต้นเราประเมิน Upside ต่อ EBITDA ประมาณ 4.5% ในปี 2562 หรือคิดเป็นประมาณ 1.5-2.0 บาท/หุ้น ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดบริษัทสามารถรับรู้กำไรจากการลงทุนใน Avgol 65.7% (กำลังการผลิตรวม 203KTA/ปี) ทำให้ทิศทางกำลังการผลิตของ IVL จะเพิ่มขึ้นรายไตรมาสไปจนถึงสิ้นปี
  คาดกำไรจากการดำเนินงานปีนี้ เติบโตสูงกว่า 42% เป็น 2.06 หมื่นล้านบาท สูงที่สุดในอุตสาหกกรรม คงคำแนะนำ ซื้อ 70.00 บาท/หุ้น

Trading idea – เก็งกำไร PSL (เป้าหมายพื้นฐาน 13.70บาท)

Technical View

  แนวต้านแรกยังไม่สามารถผ่านไปได้ :  แรงขายจากหุ้นกลุ่มธนาคาร ทำให้ดัชนียังไม่สามารถดีดตัวพ้นแนวต้านแรกี่ 1745 โดยในช่วงเช้าสามารถปรับตัวขึ้นทดสอบ 1745 แล้วไม่มีแรงส่งต่อเนื่องจากหุ้นในกลุ่ม Big Cap. ขณะนี้มองกรอบการแกว่ง 1730(EMA200วัน)-1745 หากหลุด 1730 Downside จะเปิดไปถึง 1720 และ 1710 เรายังคงคงมุมมองว่าหากเกิดแรง Rebound ระหว่างวัน มองเป็นโอกาสลดพอร์ต กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Rebound มองเป็นโอกาสขาย เพื่อลดพอร์ต มองแนวต้านหลักที่ 1740, 1745  2)  ไม่มีหุ้น: Trading เล่น Rebound ในกรอบ 1730-1745 หลุด 1730 แนะนำ งดเทรดในระยะสั้น
  แนวรับ : 1730, 1720 แนวต้าน : 1740, 1745

Keep an eye on...
  ปัจจัยต่างประเทศ:  จับตาปัญหา Trade war / 8 มิ.ย. จีนรายงานตัวเลขการค้า
  ปัจจัยในประเทศ: -  

หุ้นเทคนิค:
  IVL (B 59.00-60.00, Tp 61.50//63.00, Cut 58.00)
  AMATA (B 22.50, Tp 24.00, Cut 22.00)