“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Rebound” ต้าน 1741/1747จุด รับ 1724/1719จุด กลุ่มธนาคารกดดันตลาดวานนี้ จากประเด็นข่าวที่ว่าจะไม่มีการเลื่อนการใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากตัวที่ไม่เลื่อนการบังคับใช้ คือ มาตรฐานบัญชีเดียวของ SMEs ไม่ใช่ IFRS9 ดังนั้น คาดจะมีแรงซื้อกลับในกลุ่มธนาคารนำตลาดฟื้นขึ้นได้ ผสานราคาน้ำมันดิบ Brent +2.6% สู่ 77.32 เหรียญ/บาร์เรล รับปริมาณการส่งออกน้ำมันของเวเนซูเอลาร่วงลงแรง หนุนกลุ่มพลังงานผลักดันตลาดขึ้นได้อีกแรง กลยุทธ์วันนี้แนะ Theme “Selective Play” : PTTEP, BANPU, KBANK
Nomura : Key Factors
- (+) TH: ประเด็นข่าวที่ว่าจะไม่มีการเลื่อนการใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 เป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากตัวที่ไม่เลื่อนการบังคับใช้ คือ มาตรฐานบัญชีเดียวของ SMEs ไม่ใช่ IFRS9
- (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.88% สู่ $65.95/bbl / BRT +2.60% สู่ $77.32/bbl
- (+) OIL: ปริมาณการส่งออกน้ำมันของเวเนซูเอลาร่วงลงแรง จากวิกฤตในประเทศ
- (+) Trade: สหรัฐฯบรรลุข้อตกลง ยกเลิกมาตรการลงโทษบริษัท ZTE ของจีนแล้ว
- (*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-2,424ลบ.,Short Future -1,047สัญญา,ซื้อBond +3,447ลบ.
Nomura Daily Top Picks: PTTEP, BANPU, KBANK
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Rebound” แนวต้าน 1741/1747จุด รับ 1724/1719จุด ตลาดหุ้นไทยวานนี้ได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร จากประเด็นข่าวที่ว่าจะไม่มีการเลื่อนการใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากตัวที่ไม่เลื่อนการบังคับใช้ คือ มาตรฐานบัญชีเดียวของ SMEs ไม่ใช่ IFRS9 ซึ่งทางกกบ.จะพิจารณา IFRS9 วันที่ 20 มิย.นี้ ดังนั้น ประเด็นนี้ คาดจะทำให้มีแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มธนาคารกลับมานำตลาดได้ ผสานกับราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 2.6% สู่ระดับ 77.32 เหรียญ/บาร์เรล หลังมีรายงานว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันของเวเนซูเอลาร่วงลงแรง จากวิกฤตในประเทศ คาดกระตุ้นกลุ่มพลังงานนำตลาดฟื้นได้อีกแรง ส่วนความคืบหน้าประเด็นการค้าโลก ล่าสุด สหรัฐฯบรรลุข้อตกลง ยกเลิกมาตรการลงโทษบริษัท ZTE ของจีนแล้ว โดยทาง ZTE จะต้องจ่ายค่าปรับ 1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับวางเงินมัดจำจำนวน 400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะถูกริบกระทำความผิดอีกในอนาคต จำกัดความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศได้ สะท้อน Sentiment ต่างประเทศผ่อนคลายลง เป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนประเด็นอื่นๆ คือ การประชุม G7 ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ ติดตามความคืบหน้าทางการค้า
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play KBANK, BBL, ROBINS, GLOBAL, CPALL, TOA, AMATA, WHA, CK, STEC, PYLON, BH, AOT, ERW และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) วันนี้เน้น “Selective Play”
BRI Play : ภาครัฐย้ำ EEC จะเป็น Engine growth สำคัญผลักดันไทยไปสู่ Valued driven economy และจะเร่งโครงการเร่งด่วน EEC 6.8 แสนลบ.ให้จบทัน 1Q19F และเตรียม Roadshow (ฝรั่งเศส, อังกฤษ, เกาหลี) ปลายเดือน + รฟม.” ชงบอร์ด 22 มิ.ย.นี้ เพื่อเปิดประมูลงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ วงเงิน 1.3 แสนล้านบาท + หนุน BANK(BBL, KBANK),รับเหมา(CK, STEC PYLON, SEAFCO), นิคม(AMATA, WHA) และกลุ่มทุน PTT-BTS-STEC-RATCH
หุ้นการบริโภค(CPALL ROBINS GLOBAL) เด่น รัฐอัดฉีดงบกระตุ้นรากหญ้าปีนี้อีก 4 แสนล้านบาท + เด่นรับมหกรรมฟุตบอลโลก
FTSE Rebalance มีผลราคาปิดวันที่ 15 มิ.ย. : เน้นกลุ่ม FTSE All World (เทียบเท่า MSCI) : มีเข้าใหม่ 2 บริษัท คือ GULF เข้า FTSE Mid Cap (เม็ดเงิน 40 ล้านเหรียญ) และ TOA เข้า FTSE Small Cap
การประกาศหุ้นเข้าออก SET50/100 กลางมิย 2018 โดย เราคาดว่า SET50 ADD : GULF(โอกาส90%), GLOW, DELTA, KTC, TOA, RATCH, BGRIM / DELETE : GLOBAL, WHA, TPIPP, CBG, BCP, PSH, KCE SET100 ADD : BLA, VGI, JAS, MBK, RS, ERW, THANI / DELETE : BA, EPG, STA, UNIQ, ANAN, TTA, GGC, MONO, MC, THCOM. JMART, BIG, JWD
Portfolio Top Picks JUNE 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, PYLON, STEC, BH
Investment Theme:
2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA, IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL, MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PTTEP (TP18F 152*): Support 137/134 Resistant 143.5/147
- Theme: Earnings Play
- Earnings Outlook:คาดกำไร 2Q18F ฟื้นตัว จาก 1) ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2QTD อยู่ที่ US$71.8/bbl +12%QoQ (2) การปรับราคาก๊าซฯที่ แหล่งสำคัญเช่น บงกช คาดราคาขายก๊าฐฯเฉลี่ยที่ US$6.3/mmbtu +3%QoQ (3) ปริมาณขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากแหล่งมอนทาร่า สู่ระดับ 295kboed +1%QoQ
- Valuation: ราคาหุ้นเริ่มยืนได้อีกครั้ง หลังปรับลงมาเกือบ 7% มองเป็นจุดทยอยสะสมรอบใหม่ โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ระดับ 1.36x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 1.76x
- Catalyst: ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +2.6% อยู่ที่ 77.32 เหรียญ/bbl เป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นปิโตรเลียมขั้นต้น PTTEP เด่น
BANPU (TP18F 24.25*): Support 21.3/21.0 Resistant 20.0/20.5
- Theme: Commodity Play
- Earnings Outlook: แนวโน้มราคาถ่านหินปี18F คาดเพิ่มขึ้นราว +8% y-y อยู่ที่เฉลี่ย US$80-85/ตัน และปริมาณขายถ่านหินเพิ่มขึ้นแตะ 40.1 ล้านตัน เติบโต +9.5% y-y หนุนผลประกอบการ18F เติบโตสดใส +42% y-ซึ่งได้แรงหนุนจากความต้องการใช้ไฟฟ้าและภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย
- Valuation: มองราคาหุ้นยังเป็นจุดซื้อที่ดี และยังมี upside 12% และมี ญotential upside จากการเข้าลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติทั้ง 6 แหล่งที่สหรัฐฯ (กำลังการผลิต 200 mmscfd) โดยเราประเมิน มูลค่าพื้นฐานส่วนเพิ่มไว้ที 3.40 บาทต่อหุ้น
- Catalyst: ราคาถ่านหิน Newcastle อยู่ที่ US$114.1/ตัน ปรับตัวขึ้น 1.2% + เงินบาทอ่อนค่า 2.6% QTD
KBANK (TP18F 223*): Support 196.5/194.5 Resistant 206/209
- Theme: Domestic Play
- Earnings outlook: คาดผลประกอบการเติบโตใน 2018F ที่ +6.3% y-y (กลุ่มอยู่ที่ 5.3%y-y) กอปรกับคาดปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารจะค่อยๆ ดีขึ้น และหากปัญหา NPL จบลงได้เราคาด KBANK จะเป็นธนาคารที่มีการเติบโตแบบยั่งยืนได้ดีที่สุด จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทำมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงกลยุทธ์ customer centric ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ และสามารถเป็น main bank ของลูกค้าเกือบทุกกลุ่ม
- Valuation: ราคาหุ้นลดลง 14%YTD ถือว่าตอบรับหลายปัจจัยกังวลก่อนหน้านี้ไปมาก โดยลงมาอยู่ในจุดที่ Valuation น่าสนใจแล้ว มี PBV ปี 2018F ต่ำเพียง 1.24x หรือคิดเป็น ค่าเฉลี่ย – 1.5SD (Mean 1.76x) เป็นจุดต่ำสุดรอบหลายไตรมาส
- Catalyst: ราคาหุ้นช่วงท้ายตลาดวานนี้ปรับลงจากความเข้าใจผิดของตลาด ในประเด็นว่าจะไม่เลื่อน IFRS9 (เรามองว่าการเลื่อน IFRS9 จะส่งผลดีมากกว่าการไม่เลื่อน) แต่สรุปแล้วยังเป็นเหมือนเดิม คือรอการตัดสินใจ กกบ.วันที่ 20 มิ.ย.นี้ และยังมองเป็นไปได้สูงที่จะเห็นการเลื่อนใช้ IFRS9 ออกไป
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น