SET Recap
SET ปิดที่ระดับ 1,723.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 37,947.56 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งไซด์เวย์สร้างฐาน คล้ายตลาดภูมิภาคที่แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเฉลี่ยราว 0.3% หลังรอดูหลายปัจจัยในต่างประเทศ ทั้งการพบปะกันระหว่างผู้นำของสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ, การประชุม FOMC, การประชุม ECB เป็นต้น พรุ่งนี้ตลาดฯคงจะแกว่งคล้ายวันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,711 แนวต้าน 1,730-1,735 จุด
SET Outlook
คาดดัชนี แกว่งกรอบแคบ รอผลการประชุม Fed และ ECB …. ตลาดสัปดาห์นี้มีหลาย event ที่สำคัญ ทั้ง ผู้นำสหรัฐฯพบผู้นำเกาหลีเหนือ การประชุม 3 ธนาคารกลางใหญ่ (Fed-ECB-BOJ) ที่เราสนใจมากที่สุดจะเป็น ECB เนื่องจากถูกคาดว่าจะมีสัญญาณยุติ QE ที่จะสิ้นสุดปลายปีนี้ ..... ขณะเดียวกัน ตลาดมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อนโยบายการค้าของสหรัฐฯต่อ ประเทศต่างๆ ที่ดูก้าวร้าวมากขึ้นจากการประชุม G-7 ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ..... นอกจากนิ้ นักลงทุนต่างประเทศกลับมาขายหุ้นไทยอีกระลอกหนึ่ง (วานนี้ net sell 1.6 พันลบ.) และเป็นตัวแปรที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุดในเวลานี้ ... ด้านปัจจัยในประเทศ ทิศทางการเมืองดูชัดเจนมากขึ้น การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.พ.62 (ตามที่นายกฯให้ข่าว) เพียงแต่ช่วงเวลานี้ ตลาดมีปัจจัยอื่น(ในทางลบ) ทำให้การตอบรับต่อการเลือกตั้งยังไม่มากอย่างที่คาดกัน
Recommendation
เรายังเชื่อว่าปัจจัยบวกของไทยเอง อาทิ การเลือกตั้ง-เศรษฐกิจ-กำไรตลาด ยังถือว่าดี ต้านแรงขายนักลงทุนต่างประเทศ โอกาสที่ดัชนีฯ จะหลุด 1710 จุดยังมีไม่มากนัก ..... แต่เนื่องจากเราต้องรอดูผลประชุม Fed-ECB กลยุทธ์เวลานี้ จึงเป็น “ wait & see” หรือ selective buy ในหุ้นที่มีปัจจัยหรือข่าวบวกสนับสนุน โดย หุ้นที่เราคาดได้รับผลบวกจากการเลือกตั้ง จะเป็น KBANK , WHA , AMATA , STEC* , SEAFCO…. หุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะเข้าช้อนซื้อเอรอการกลับมาของดัชนีฯ หุ้นขนาดใหญ่ เราเลือก PTT* , IVL, CPF ขณะที่หุ้นเล็กที่ราคาลงมาลึก หรือ เราแนะนำ BEAUTY, RS , HANA และ PLAT*
Technical : WORK, TTCL, VCOM
* เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ข่าวเด่น