Market Summary 11/06/2018

หุ้นแนะนำพิเศษ

JKN Analyst Meeting (ราคาปิด 9.85 ราคาเหมาะสมอยู่ระหว่างการปรับประมาณการ )

• รายงานกำไรสุทธิ 1Q61 อยู่ที่ 71 ลบ. +53 %YoY  จากการเติบโตของรายได้ที่ 346 ลบ. +34 %YoY และบริษัทสามารถรักษาระดับ GPM ได้ที่ 45 % ใกล้เคียงกับช่วง 1Q60 อีกทั้งมีการชำระเงินกู้ยืมระยะสั้นไปบางส่วนทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสู่ 20 % จาก 18 % ใน 1Q60
• ความเห็น :  หลังจากเข้าร่วมฟัง Analyst Meeting ทำให้คลายความกังวลในประเด็นลูกหนี้การค้าของบริษัท เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มีศักยภาพในการชำระหนี้ โดยคาดว่าบริษัทจะได้รับชำระหนี้ภายในไตรมาส 2 และ 3
• คงประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ที่ 225 ลบ. +20 %YoY โดยกำไรสุทธิใน 1Q61 มีสัดส่วนเป็น 31 % ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี ทั้งนี้มีปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตได้แก่ การขายคอนเทนต์ให้กับช่องทีวีดิจิตอลได้เพิ่มขึ้น การขยายฐานผู้ชมไปในกลุ่มประเทศ CLMV และการร่วมมือกับ BEC ในการจำหน่ายคอนเทนต์ไปยังต่างประเทศ

Market View  :  รีบาวด์ตามเพื่อนบ้าน
หุ้นแนะนำพิเศษ : JKN
หุ้นมีข่าว : TPCH  AH
Technical  Insight : STEC  AKR
  SET Index วานนี้เคลื่อนไหวผันผวนทั้งแดนลบและบวกในกรอบด้วยมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง หลังตลาดยังคงติดตามผลการประชุมระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ต่อด้วยการประชุม FED และ ECB ท่ามกลางปัจจัยในประเทศที่เบาบาง หนุนโดยกลุ่ม BANK และ HELTH ส่วน ENERG กดดันตามราคาน้ำมันอ่อนตัว โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,723.11 จุด (+1.07 จุด) Volume 3.79 หมื่นลบ. มาจาก Foreign Net -1,657.68 ลบ.  TFEX Net +3,880 สัญญา ตราสารหนี้ -412.32 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย  
  +ดาวโจนส์ปรับขึ้นเนื่องจากนักลงทุนไม่ได้วิตกกังวลมากนักต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการประชุมกลุ่ม G7 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 
  +น้ำมันดิบปิดบวก หลังจากอิรักเห็นว่าโอเปกยังไม่ควรปรับเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมัน 
  -สหรัฐคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่กระทบบริษัท 5 แห่ง ผู้บริหาร 3 ราย เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ของสหรัฐ
  +/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.40 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท32.04 บาท/USD
  **ผู้นำเกาหลีเหนือและสหรัฐประชุมกันวันที่ 12 มิ.ย. เริ่มประชุม 8.00 น. แถลงผล 19.00 น.ตามเวลาประเทศไทย**
  ** 12-13 มิ.ย.  ประชุม FED คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% 
  ** 14 มิ.ย. ประชุม ECB คาดลดวงเงิน QE
  ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แต่ยังคงมีความกังวลจากที่สหรัฐคว่ำบาตรรัฐเซียรอบใหม่ อีกทั้งตลาดรอผลการประชุมระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐที่จะออกมาเวลา 19.00 น.ตามเวลาไทย และ fund flow ไหลออก คาดดัชนีจะเคลื่อนไหว sideway ในกรอบ 1,711-1,730 จุด
กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
  - GOLD GULF MBK THG เข้าคำนวณ FTSE SET Mid Cap Index มีผล 18 มิ.ย.
  - UVAN เก็งครม.ออกมาตรการช่วยเหลือการส่งออกน้ำมันปาล์ม
  - GGC EA เดือนก.ค.รัฐปรับเพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลจาก B7 เป็น B20  
  - หุ้นที่ Laggard ดัชนี CPF CK STEC UNIQ
  - JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต 
  - BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 114.35$/Ton

หุ้นมีข่าว  

• AH (ราคาปิด 37.25 บาท Bloomberg Consensus 43.03 บาท) เข้าเซ็น MOU กับ VINFAST ในการจัดตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนโลหะปั๊มขึ้นรูปและประกอบตัวถังรถยนต์ ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 1.8 พันล้านบาท คาดเริ่มผลิตได้งวด 3Q62 โดย AH ถือหุ้น 51% ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตตัวถังรถยนต์ สําหรับรถยนต์ 2 รุ่นแรกของ VINFAST ได้แก่ รถยนต์นั่งแบบ 4 ประตู (ซีดาน) และรถยนต์เอนกประสงค์ (เอสยูวี) นอกจากนี้ AH จะเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์จับยึดและแม่พิมพ์ทังหมดสําหรับรถยนต์ของวินฟาสท์ มูลค่างานรวมกว่า 2.5 พันล้านบาท (ที่มา : SET)
• ความเห็น จัดเป็นขนาดการลงทุนลำดับ 2 ของ AH ในต่างประเทศรองจากการลงทุนใน SAKTHI ซึ่งเบื้องต้นจะทำให้ AH มีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ในระยะสั้นบริษัทยังได้รับประโยชน์จากการเติบโตของยอดผลิตรถยนต์ในประเทศ เดือน เม.ย. อีกราว 12%YoY และยังได้รับดอกเบี้ยอีกราว 60 ล้านบาท จาก SAKTHI เป็นไตรมาสที่ 4 โดยรวมยังน่าสนใจ “ซื้อเก็งกำไร” ด้วย Current PER เพียงราว 8.86 เท่า และมี Upside จาก Bloomberg Consensus 16.24%
• +TPCH (ราคาปิด 10.2 ซื้อ ราคาเหมาะสม 16.74) ลั่นผลงานโตต่อเนื่อง เดินหน้า COD เพิ่ม เป้ากำลังผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวล 200 MW ในปี 2563 พร้อมโชว์ติดอันดับ ESG100 เป็นปีที่ 3 ตอกย้ำหุ้นยั่งยืนน่าลงทุน (ที่มาข่าวหุ้น)   
• ความเห็น แม้ว่าปีนี้ผลประกอบการจะเติบโตจากการ COD โรงไฟฟ้าเพิ่ม 1 แห่งในไตรมาส 1/61 รวมมี 6 โรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 60 MW แต่การก่อสร้างโรงไฟฟ้า TPCH1 2 และ 5 มีความล้าช้ากว่าแผนและขาดปัจจัยใหม่ทำให้ราคาหุ้นยังถูกกดดัน
• +WORK ร่วมทุน BNK48 ตั้งบริษัทโปรดักชั่นผลิตรายการทีวี ถือหุ้น 50% พร้อมทำธุรกิจจัดอีเว้นท์-คอนเสิร์ต
• +ORI เปิดเผยว่า วัน ออริจิ้น ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) ทั้งหมดให้แก่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ใช้งบลงทุนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาทภายในช่วง 5 ปี (ปี 61-65)  ลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.กลุ่ม Accommodation เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 2.กลุ่มสำนักงานให้เช่าและค้าปลีก (Office & Retail) และ 3.กลุ่มธุรกิจอาหาร (Foods) โดยจะให้น้ำหนักกับกลุ่มธุรกิจ Accommodation 70% และอีก 2 กลุ่มที่เหลือรวมกัน 30% คาดธุรกิจส่วนนี้จะมีมูลค่าตลาด 3 หมื่นล้านบาท สร้างยอดขายในช่วง 5 ปีข้างหน้าราว 1 หมื่นล้านบาท
• +SEAFCO เล็งปรับเป้ารายได้เพิ่มเป็นโต 30% จากเดิมคาดโต 25% หลังตุนแบ็กล็อกแตะ 4,000 ล้านบาท มองไตรมาส 2/2561 โตก้าวกระโดด จากการรับรู้รายได้ 600-700 ล้านบาท เผยอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานใหม่มูลค่ารวม 9,835 ล้านบาท คาดได้งานราว 30-40% บุกต่างประเทศอัพสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7% (ที่มาทันหุ้น)
• +THG เตรียมเสนอบอร์ดลงทุนโครงการธนบุรี ซีเนียร์โฮม มูลค่าไม่เกิน 1 พันลบ. ในสัปดาห์หน้า