Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา ตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบาง คาดนักลงทุนส่วนมากเลือกที่จะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูหลายเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายพบแรงซื้อในกลุ่ม Domestic play นำโดยธนาคาร KBANK, SCB, BBL กลุ่ม ICT อย่าง DTAC, TRUE กลุ่มโรงพยาบาล BH, BCH และห้าง MBK, PLAT ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,723 จุด (+1.0 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.7 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวานก่อนหน้าที่ 4.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 1,657 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 737 ล้านบาท) แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 3,880 สัญญา
Investment theme
ปัจจัยต่างประเทศยังเผชิญความเสี่ยง : เริ่มต้นจากการประชุม FOMC ในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ตลาดให้น้ำหนักโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐสูงกว่า90% เป็น 1.75-2.0% ซึ่งเรามองว่าตลาดได้รับรู้ประเด็นดังกล่าวไปไม่มากก็น้อยแล้ว อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญคือการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐอย่างคุณ Powell ที่คาดจะกล่าวถึงประเด็นตัวเลขเศรษฐกิจและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี (แนะดู Dotplot) ภายหลังหลายตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐทั้งภาคการจ้างงาน, ค่าแรง, อัตราการเติบโตเศรษฐกิจ ภาคบริการและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ออกมาในทิศทางดี ส่งผลให้ตลาดเริ่มเกิดความกังวลต่อโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จาก 3 เป็น 4 ครั้ง โดย 1 ครั้งที่มีโอกาสเกิดขึ้น เราคาดจะอยู่ในไตรมาส 3 (เดือนกันยายน) ซึ่งตลาดปรับเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆจาก 32% เป็น 63% ประกอบกับการแผนการเร่งขนาดงบดุล อาจเป็นปัจจัยกดดัน Bond yield และค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นต้นทุนการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาค
Investment Theme: แนะนักลงทุนถือเงินสด 40% โดยกรอบแนวรับ-แนวต้านบริเวณของ SET ในเดือนมิถุนายนบริเวณ 1,680-1,745 จุด แนะหันลงทุนกลุ่ม Domestic & Defensive อย่างรถไฟฟ้า (BTS, BEM ), กลุ่มอสังหาแนวราบ (GOLD, LH) พร้อมเก็งกำไรกลุ่มก่อสร้างโดยคาดเดือนนี้จะมีความคืบหน้าโครงการประมูล เช่น พระราม3 –ดาวคะนอง, ขายเอกสารคัดเลือกเอกชนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แนะเก็งกำไร CK, STEC กลุ่มค้าปลีก HMPRO
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สหรัฐเผย Trump ไม่พอใจถ้อยคำแถลงของนายกแคนาดา / ดีโอดี ไอโอเทค (DOD) ตั้ง IPO ที่ 9.30 บาทเข้าซื้อขาย 20มิ.ย. / Dollar กลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 93.8 / สหรัฐประกาศคว่ำบาตร 5บริษัทรัสเซีย
Stock pick : BBL
BBL : เก็งกำไร 235.0 บาท/หุ้น
เรายังคงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มธนาคาร แต่มองว่ากลุ่มที่อิงกับต่างประเทศเริ่มมีความเสี่ยง และอาจทำให้ในระยะสั้นอาจเห็น Sector rotation เข้ามายังกลุ่ม Domestic ซึ่งหนึงในนั้นอาจเป็นกลุ่มธนาคาร โดยเราเลือก BBL เป็น Stock pick ของกลุ่มเนื่องจาก 1) ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าธรรมเนียมจำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ 2) สินเชื่อปีนี้ยังถูกผลักดันจากบริษัทและโครงการภาครัฐ (มากกว่า 87%) และ 3) การจับมือ AIA ช่วยผลักดันรายได้ค่าธรรมเนียมคาดเริ่มรับรู้รายได้ใน 2Q18
ในขณะที่ปัจจัยที่ตลาดกังวลอย่างเรื่อง IFRS9 เราให้น้ำหนักน้อย และมองว่าหากเกิดขึ้น BBL จะได้รับผลกระทบจำกัดเมื่อเทียบกับกลุ่ม จาก Balance sheet ที่แข็งแกร่ง
ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายบน PBV -1SD ที่ 0.9x คงคำแนะนำเก็งกำไรราคาเหมาะสม 235.00 บาท/หุ้น
Trading idea – เก็งกำไร ORI เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการแถลงแผนระยะ 5ปีของผู้บริหาร สนับสนุนจาก Recurring income ราคาเหมาะสม 22.30 บาท/หุ้น
แรง Rebound ยังไม่เด่นชัด: แรงซื้อกลับจากหุ้นกลุ่มธนาคารและสื่อสาร ทำให้ดัชนียังคงมีแรงยื้อไม่หลุดแนวรับที่ 1710 ระยะสั้นยังคงมองเป็นการแกว่งในกรอบ 1710-1730 (EMA200วัน) มองว่าหากยังไม่สามารถยืนเหนือ 1730 ยังคงมีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1710 และ 1700 ยังมองว่าจังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ต กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ต้องลดพอร์ตการลงทุนหลังหลุด 1730 โดยจังหวะ Rebound ยังมองเป็นโอกาสขาย เพื่อลดพอร์ต 2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มที่โซนแนวรับ 1710 หากเริ่มหยุดลง อาจเล่น Rebound สั้นๆ แต่หลุด 1710 แนะนำงดเทรดในระยะสั้น
แนวรับ : 1710, 1700 แนวต้าน : 1730, 1736
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war , การประชุม FED 13มิย , การประชุม ECB 14 มิย / การประชุม BoJ ในวันที่ 15 มิย
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
IVL (B 59.00-60.00, Tp 61.50//63.00, Cut 58.50)
TRUE (B 6.80, Tp 7.20, Cut 6.70)
ข่าวเด่น