คำแนะนำ
เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,282 1,271 1,263
แนวต้าน 1,307 1,315 1,325
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นขานรับผลการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่เป็นไปในเชิงบวก รวมไปถึงการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ที่ปรับตัวขึ้น 0.2% ตามคาด อย่างไรก็ตามทองคำแกว่งตัวแคบเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2018 จากการประชุมเฟดที่จะกำลังเสร็จสิ้นลงในคืนวันนี้เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่ตลาดรอฟังแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟด และ Dot Plot ของเจ้าหน้าที่เฟด เบื้องต้นหากตลาดตีความว่าแถลงการณ์บ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่แข็งกร้าวมากขึ้นกว่าเดิมในปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำได้ ในทางกลับกันหากเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อาจช่วยหนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้นได้หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงรับข่าวดังกล่าวไปบ้างแล้วในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งต้องติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)ของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาเริ่มมีการดีดตัวกลับทุกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัวลง แต่หากการดีดตัวกลับราคายังไม่สามารถดีดตัวกลับไปทดสอบหรือยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นอาจเกิดแรงขายจะกดดันให้ราคาปรับตัวลง โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ผ่านได้สามารถถือต่อ
ข่าวเด่น