ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
แกว่งตัวลง... แต่น่าจะสุดทางแล้ว
KGI คาด SET Index วันศุกร์ลดลงต่อ... แต่น่าจะมาสุดทางลงแล้ว... เพราะซีรีส์ของข่าวลบจากต่างประเทศได้สิ้นสุดลงหลังเราติดตามปัจจัยต่างๆ มาตลอดสัปดาห์ ล่าสุดเมื่อคืนนี้ i) ธ.กลางยุโรป (ECB) ประกาศเลื่อนนโยบายคิวอีออกไปอีก 3 เดือน (สิ้นสุดในเดือน ธ.ค. 2561) ซึ่งถือว่านโยบาย ECB ผ่อนคลายกว่าที่ consensus คาดว่าจะคิวอียุโรปจะสิ้นสุดใน ก.ย. 2561 ส่งผลให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่า ยิ่งดันให้ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ แรลลี่แรงเมื่อคืนนี้ (กดดันฟันด์โฟลว์หุ้นเอเชียในช่วงสั้น) ii) เมื่อเช้ามืดวันนี้ สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างเป็นทางการ 5 หมื่นล้านเหรียญฯ แต่ลดชนิดสินค้าที่จะเก็บภาษีจาก 1,300 รายการเหลือ 800 รายการ เน้นสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นสำคัญ และเราคาดว่าในสุดสัปดาห์นี้ทางการจีนจะประกาศมาตรการตอบโต้ในระดับที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ฝ่ายวิจัย KGI คงมุมมองว่า SET Index จะมีเสถียรภาพมากขึ้นในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป คาดว่าปัจจัยต่างประเทศจะมีบทบาทน้อยลง และปัจจัยบวกในประเทศ + บรรยากาศของการเตรียมจัดการเลือกตั้งของไทย น่าจะสนับสนุน SET Index ชัดเจนมากขึ้น
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร COM7*, ASAP, EPG*
COM7* (เป้า Consensus 21.07 บาท) 1) ประเมินราคาฟื้นตัวแนวรับ 18.1 บาท / แนวต้าน 18.5 - 18.9 บาท (Stop loss 17.2 บาท) 2) ประเมิน Earnings momentum จะยังโตต่อเนื่องในไตรมาสที่เหลือของปีจาก i) ดีมานด์อุปกรณ์ไอทีในไทยยังโตแกร่งตามการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเป็นยุคดิจิตอล และคาดจะได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศขยายตัว ii) COM7* เป็นตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนทุกยี่ห้อ (พันธมิตรที่สำคัญคือ Apple, Huawei และ Oppo) ทำให้คาดว่าได้อานิสงส์จากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ตลอดเวลา iii) รายได้ที่จะเพิ่มขึ้นจากการเป็นพันธมิตรกับ TRUE* (ร้าน True shop ปีนี้ทำกำไรดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเทียบปีก่อน) และการเปิดแฟรนไชส์ Banana IT โดยมี KBANK* เป็นคนปล่อยกู้ และการเปิดสาขารูปแบบใหม่คู่กับ KBANK*
ASAP (เป้า Consensus 10.09 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นปรับลงมาก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน PE ปี 2561 = 23 เท่า เทียบอัตราการเติบโตของกำไร 3 ปี เฉลี่ย 30% ต่อปี ทำให้ PEG ลงมาต่ำกว่า 1 เท่าแล้ว ... ข้อมูลประมาณการ Bloomberg consensus 2) ประเมิน Consensus มีโอกาสปรับประมาณการฯขึ้นหลังจำนวนรถให้เช่าในพอร์ตตอนนี้เพิ่มขึ้น +4 พันคันแล้ว ลุ้นทะลุเป้าหมายปีนี้ที่ +5 พันคัน (สิ้น 1Q61 มีจำนวนรถรวม 1.2 หมื่นคัน) 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H61 จะเติบโตและมี Upside จากการเปิด Asap auto park (เปิดเดือน มิ.ย. และคาดเปิดตัวระบบธุรกิจแฟรนไชส์เดือน ก.ค.) โดยการขายรถที่หมดอายุสัญญาเช่าเองผ่าน Asap auto park จะหนุนอัตรากำไร (จากเดิมโยนเข้าลานประมูล 100% ซึ่งมีอัตรากำไรต่ำ) 4) ประเมินแนวรับ 6.05 บาท / แนวต้าน 6.5 - 6.9 บาท (Stop loss 5.9 บาท)
EPG* (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) 1) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดในปี 2561 (เม.ย.60 - มี.ค.61) และจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2562 (เม.ย.61 - มี.ค.62) จาก i) ราคาเม็ดพลาสติกคาดจะเริ่มชะลอตัวลงตามราคาน้ำมันที่เริ่มพักฐานและอุปทานเม็ดพลาสติกสายโอเลฟินส์ โดยเฉพาะ PE จะเพิ่มขึ้นมากใน 2H61 ii) ค่าเงินบาทคาดจะเริ่มชะลอการแข็งค่า และ iii) ดีมานด์ในสินค้า ฉนวนยาง (โตตามการลงทุน), ชิ้นส่วนยานยนต์ (โตตามอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ), ถ้วยพลาสติก (โตตามการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ) คาดจะเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2) ประเมินแนวรับ 8.05 บาท / แนวต้าน 8.6 บาท (Stop loss 8.0 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) DTAC* แจ้ง ตลท. ว่าบริษัท รวมทั้งบ.ลูก จะไม่เข้าร่วมในการประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ตซ (ที่มา: SET) Impact: ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อ DTAC ที่จะยังไม่ต้องมีต้นทุนจากการประมูลคลื่นใหม่เข้ามาเพิ่ม ในขณะที่เพิ่งจะเซ็นสัญญาใช้คลื่น 2300 เมกะเฮิร์ตซ กับ บมจ. ทีโอที การตัดสินใจของ DTAC ในครั้งนี้ นำไปสู่ 2 แนวทางที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (15 มิ.ย. 61) ซึ่งเป็นวันที่จะต้องยื่นเอกสารสำหรับการเข้าประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ตซ แนวทางแรก คือ เหลือเพียง ADVANC* ที่จะเข้าประมูล หรือ 2. ไม่มีผู้ใดสนใจเข้าประมูลในรอบนี้ เราจะต้องปรับปรุงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของ DTAC ที่ 54 บาท เนื่องจากได้รวมคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ตซ เข้าไว้ในประมาณการแล้ว ในขณะที่หาก ADVANC เข้าประมูล และได้รับใบอนุญาต 1800 เมกะเฮิร์ตซ ในครั้งนี้ จะทำให้ราคาเป้าหมายของเราลดลงเล็กน้อย จากเดิม 220 บาท เหลือ 217 - 218 บาท
(+) กลุ่มปตท.ทุ่มแสนล.ซื้อ'โกลว์''ปิยสวัสดิ์-เทวินทร์'เดินเกมทำดีลผ่าน'จีพีเอสซี' (กรุงเทพธุรกิจ) จับตารายงานบอร์ดปตท.วันนี้ "จีพีเอสซี" ผู้ผลิตไฟฟ้า ยักษ์ใหญ่ในเครือ ปตท. เตรียมปิดดีลมูลค่า "แสนล้าน"ซื้อหุ้น"โกลว์พลังงาน" 69% หรือ ราวหุ้นละ 90-100 บาท ตอบสนองยุทธศาสตร์ ขึ้นแท่นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ภาคตะวันออก สำรองไฟฟ้ารองรับอีอีซีบูม เผยเบื้องหลัง "ปิยสวัสดิ์-เทวินทร์"เดินเครื่องเต็มสูบหวังจบดีล ก่อนหมดวาระ ผ่างบการเงิน"โกลว์"รายได้ยังโต แต่อนาคตลำบาก ต้นทุนพุ่ง-คู่แข่งบีบทุกทาง
(+) เลื่อนก.ม.คุมนอนแบงก์ "SAWAD*-MTC*’ เฮลั่นทุ่ง (ข่าวหุ้น) กระทรวงการคลังเลื่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมนอนแบงก์ รอรัฐบาลใหม่เข้ามาตัดสินใจ จับตาหุ้น SAWAD-MTC เจ้าใหญ่ตีปีก หลังปัจจัยนี้กดดันราคาหุ้นร่วงกว่า 22% และ 11% ในช่วงเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ยืนยันปีนี้ยังไม่มีหน่วยงานใหม่มาคุมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม โบรกฯ คาดส่งผลดีต่อรายได้กลุ่มเช่าซื้อปีนี้
(+) MAJOR* ผุดบริการแนวใหม่ ดูหนังเก่าแบบออนดีมานด์ (ไทยโพสต์) "เมเจอร์" เปิดบริการ "มูฟวี่ ออนดีมานด์" ตอบโจทย์คนไม่มีเวลาดูหนัง เปิดโหวตให้เลือกภาพยนตร์เก่าที่ออกจากโรง ครบ 100 คน พร้อมฉายทันที ประ เดิมเฟสแรก 24 สาขา 50 เรื่อง
(+) INGRS แบ็กล็อกพุ่ง 4 พันล้าน (โพสต์ทูเดย์) อิงเกรสตุนงานในมือ 4,000 ล้าน รอรับรู้รายได้ 5 ปี หลังคว้า 4 ออร์เดอร์ใหญ่จากค่ายรถ 2 ประเทศ นายอับดุล ราฮิม บิน ฮายี ฮิตัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) หรือ INGRS เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้า 4 รายการ เพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ให้เพอโรดัว ผู้ผลิตรถ รายใหญ่ในมาเลเซีย และอีซูซุ ฟอร์ด และมาสด้า รวมมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งงบลงทุน 336 ล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 7.95 บาท) ประเมินแนวรับ 6.4 บาท / แนวต้าน 6.70 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 6.4 บาท)
STEC* (เป้าพื้นฐาน 23.2 บาท) ประเมินแนวรับ 22.2 บาท / แนวต้าน 23.6 บาท (กำหนด Trailing stop ล๊อกกำไร 22.2 บาท)
CK* (เป้าพื้นฐาน 32.1 บาท) แนะนำ "Let profit run" กำหนด Trailing stop ล๊อกกำไร 27 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มสื่อ น้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ยอดการใช้จ่ายสื่อโฆษณาในเดือน พ.ค. +3.3% MoM และ +2.7% YoY โดยการใช้สื่ออินเตอร์เนตมีการเติบโตสูงสุดเทียบ MoM ขณะที่การใช้จ่ายผ่านโรงหนังเติบโตเด่นในมุม YoY เลือก PLANB* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1707 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1707 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1707-1729 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1707 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1707-1696 จุด
แนวรับวันนี้: 1707/1697 แนวต้านวันนี้: 1715/1727
ข่าวเด่น