คำแนะนำ
หากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ เสี่ยงเปิดสถานะขาย แต่หากทะลุขึ้นไป อาจต้องชะลอการเปิดสถานะขายไปก่อน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,275 1,263 1,251
แนวต้าน 1,291 1,300 1,309
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลงถึง 23.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือ -1.8% โดยได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรหลังราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. แต่ราคาก็ไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันในโซน 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญจนกระตุ้นให้เกิดแรงขายทางเทคนิคเพิ่มเติม ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2017 จึงเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,275.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ใรระหว่างการซื้อขาย ถึงแม้จะเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็ตาม โดยล่าสุดในวันศุกร์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% สำหรับสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้านจีนได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นเดียวกันเพื่อเป็นการตอบโต้สหรัฐ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.จาก NAHB ส่วนตลาดจีนปิดทำการวันนี้เนื่องในวัน Dragon Boat Festival
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคามีการดีดตัวกลับหลังจากราคาอ่อนตัวลง แนะนำให้จับตาแรงซื้อเพราะหากการดีดตัวกลับของราคายังไม่สามารถกลับไปทดสอบหรือยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดแรงขายซึ่งจะกดดันให้ราคาปรับตัวลงอีกครั้ง โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,275-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
หากราคาไม่สามารถผ่าน 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ สามารถเปิดสถานะขายหรือถือสถานะขายต่อไป ทั้งนี้ หากราคาอ่อนตัวลงแต่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1,275-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจปิดสถานะขายออกเพื่อทำกำไรบางส่วน สำหรับการเปิดสถานะซื้ออาจรอราคาในโซน 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์เช่นกัน
ข่าวเด่น