กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรงในช่วงครึ่งเช้าหลุดระดับ 1,700 จุด อย่างไรก็ตามยังพอมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวและทำให้ดัชนีย้อนกลับมาปิดลบเพียง 5 จุดและยืนเหนือ 1,700 จุดได้อีกครั้ง กระแสเงินทุนยังไหลออกจากไทยและภูมิภาคหนาแน่นต่อเนื่องโดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรรวมทั้งสิ้น 1.2 หมื่นลบ. และขายพันธบัตร 4.6 พันลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อรวมกัน 1.4 หมื่นลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังมีจังหวะอ่อนตัวลงหลุดระดับ 1,700 จุดให้เห็นจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรงจากคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะเพิ่มกำลังการผลิต นอกจากนี้ความกังวลด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังปะทุขึ้นอีกครั้งหลังทั้ง 2 ฝ่ายมีการเปิดเผยรายการสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษี อย่างไรก็ตามเรามอง Downside ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างจำกัดหลังจากปรับฐานลงมาพอควรและเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาให้เห็นในช่วง 2 วันล่าสุดที่บริเวณ 1,700 จุดบวกลบ ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศอยู่ในช่วงเติบโตเร่งตัว เรายังเน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic Play เป็นหลัก
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้น Domestic//Accumulate on Dip
หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BGRIM, GLOBAL, MTC, PCSGH, TVO
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$992ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลี US$456ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$229ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเม็ดเงินไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคกังวลต่อมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆที่ทะยอยประกาศออกมา
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MTC <<
- การเลื่อนใช้ กม. Non-bank เป็น sentiment บวก แต่ถึงไม่เลื่อนก็ไม่เป็นปัญหา
- ราคาหุ้นที่ปรับลงไปถึง 32.50 บาทสิ้นเดือนก่อนได้สะท้อนอัตราดอกเบี้ยเรียกเก็บที่ 16% ไปแล้ว ถือว่า priced in ข่าวลบไปเกือบทั้งหมดเพราะดอกเบี้ยที่เรียกเก็บใหม่น่าจะ 15% + ค่า fee อื่นๆ
- แนวโน้มกำไรน่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้ทุกต่อเนื่องโดยเฉพาะ 2H18 ที่เป็น High season ของการปล่อยสินเชื่อ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 51 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ขายซองรถไฟเชื่อม 3 สนามบินวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของงานประมูลภาครัฐ รฟท.จะขายซองประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 18 มิ.ย.-9 ก.ค. เปิดรับซองข้อเสนอ 12 พ.ย. รู้ผลชนะ 13 พ.ย. นี้ โครงการนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะพัฒนา EEC เพื่อเชื่อมต่อทั้ง 3 สนามบิน เป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบการหลายรายที่สนใจเช่น กลุ่ม BTS-STEC-RATCH กลุ่ม BEM-CK รวมถึง PTT ที่อาจเข้าประมูลกับกลุ่ม BSR (บ.ลูกของ BTS) จึงเป็นประเด็นเก็งกำไรกลุ่มนี้ในระยะนี้ นอกจากนี้ AMATA, WHA จะได้ประโยชน์ในระยะยาวด้วย
(-) ราคาน้ำมันดิบผันผวนรอผลประชุมของผู้ผลิตน้ำมันศุกร์นี้ ปัจจัยกดดันราคาน้ำมันคือ supply ที่อาจเพิ่มขึ้นใน 2H18 เพราะรัสเซียและซาอุฯต้องการให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเพิ่มกำลังผลิต 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ชดเชย supply ที่หายไปจากเวเนซุเอลาและอิหร่าน แต่บางประเทศไม่เห็นด้วย ขณะเดียวกันสหรัฐก็ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เรามองราคาน้ำมันกำลังจะผ่านพีคไปใน 2Q18 และทยอยลดลงใน 2H18 เพราะ supply ที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นต้นน้ำอย่าง PTTEP ผ่านพีคไปแล้วเช่นกันที่ 150.50 บาทปลายเดือนที่ผ่านมา มีเพียงการประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณเท่านั้นที่หนุนราคาหุ้นในช่วง 2H18 และผลดีจะตกกับปลายน้ำที่มีการขยายกำลังการผลิตเช่น IRPC และ PTTGC
(+) ทั้ง 3 ค่ายไม่ประมูล 1800 MHz เป็นบวกต่ออุตสาหกรรม เพราะลดแรงกดดันด้านต้นทุนคลื่นในอนาคตโดยเฉพาะ ADVANC และ TRUE และทำให้ กสทช. ต้องกลับไปพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่ให้เหมาะสมมากขึ้นเพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับคลื่นอื่นๆในอนาคต ส่วน DTAC อยู่ในฐานะลำบากที่สุด การไม่ประมูลคลื่น 1800 MHz ซึ่งเป็นคลื่นหลักที่ใช้งานอยู่และอาจไม่ได้รับการเยียวยาจาก กสทช. เป็นความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ เราอยู่ระหว่างทบทวนราคาเป้าหมาย DTAC จึงไม่แนะนำ เราเลือก ADVANC (ราคาเป้าหมาย 220 บาท) และ INTUCH (ราคาเป้าหมาย 67.50 บาท) เป็น Top pick ของกลุ่ม
(+) BGRIM แจ้งการลงนามร่วมทุนพัฒนาโครงการผลอตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ขนาด 420 MW โดยนายกฯ ไทยและเวียดนาม ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โคยคาด COD ปี 2019 ประเมินเบื้องต้น หากร่วมทุน 51% ที่ DE 3:1 IRR ราว 12% คาดราคาเป้าหมายเพิ่มราว 1.75 บาท ชดเชย Downside ราคาเป้าหมายลดลงใกล้กันจากความเป็นไปได้ในการถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้า BGPR1-BGPR2 ลดลง 25-30% หากย้ายที่ตั้งนิคมฯ (รอสรุปอย่างเร็วปลายปีนี้) จึงคงราคาเป้าหมาย 32 บาท และคำแนะนำ ซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18 มิ.ย.
|
- ไทย: รฟท.เปิดขายซองรถไฟเชื่อม 3 สนามบินวันแรก
|
19 มิ.ย.
|
- ไทย: ส่งออก-นำเข้า-ดุลการค้า และยอดขายรถ (พ.ค.)
|
20 มิ.ย.
|
- ไทย: กนง. ประชุม ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%
|
21 มิ.ย.
|
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย
|
22 มิ.ย.
|
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (มิ.ย.)
|
22-23 มิ.ย.
|
-การประชุมกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC
|
- (-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลงหลังสหรัฐประกาศให้เก็บภาษี 25% บนสินค้านำเข้าจากจีน ในขณะที่ประเทศจีนเองก็ตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน
- (-) แรงกดดันจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกดดันให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง
- (-) ตลาดเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการในวันนี้ ได้แก่ตลาดฮ่องกง จีน ไต้หวัน และ อินโดนีเซีย ในขณะที่ตลาดอื่นๆโดนปัจจัยลบจากการตอบโต้กันระหว่างจีนและสหรัฐ แม้ว่าทางการจีนจะแสดงท่าทีว่าพร้อมที่จะเจรจา แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะตอบโต้ในลักษณะ ดอลลาร์ต่อดอลลาร์เช่นกัน
- () ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาที่บริเวณ 32.60-32.70 บาท/ดอลลาร์ หลังแนวโน้มเงินทุนไหลกลับยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง
- (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 1.83 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 65.06 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังตลาดคาดว่าซาอุฯและรัสเซียจะเพิ่มกำลังการผลิตหลังการประชุม OPEC ในวันที่ 22 มิ.ย. นี้
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 29.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,278.50 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์
ข่าวเด่น