Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นผันผวนโดยมีแรงขายหุ้นพลังงานอย่างต่อเนื่องนำโดย PTT, PTTEP, BANPU และมีแรงขายเด่นใน DTAC ภายหลังประกาศไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่น 1,800mhz อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้า GPSC, GLOW ปรับตัวขึ้นสวนตลาดและแรงซื้อสูงอย่างมีนัยยะ ณ.สิ้นวัน SET ปิดตลาดที่ 1,704 จุด (-5.0จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานก่อนหน้าที่ 5.9 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 7,468 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ5,941 ล้านบาท) และเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 1,877สัญญา
Investment theme
สัปดาห์นี้ติดตามผลกระทบ Trade-war และค่าเงินบาทกดดันการลงทุน : เรามองว่าภาพการลงทุนในสัปดาห์นี้ มีลักษณะคล้ายกับสัปดาห์ก่อน กล่าวคือยังคงมีปัจจัยต่างประเทศกดดันการลงทุน นำโดยปัญหาสงครามการค้าปะทุขึ้นอีกครั้ง ภายหลังสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 25% จากประเทศจีนครั้งแรกประมาณ 3.4หมื่นล้านเหรียญสหรัฐครอบคลุมสินค้ากว่า 1,102 รายการ โดยจะมีผลในวันที่ 6 ก.ค.นี้ และระบุพร้อมที่จะเพิ่มวงเงินถึงระดับ 5.0หมื่น -1.0แสนล้านเหรียญ ในขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน โดยครอบคลุมสินค้าเกษตร, เนื้อหมู และรถยนต์ เรามองว่าการที่ทั้ง 2 เลือกที่จะให้ภาษีมีผลในอีก 3สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนหนึ่งยังคงไม่ปิดประตูการเจรจาครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตามหากเกิดขึ้นจริง เราคาดกระทบการส่งออก-นำเข้าสินค้าทั่วโลก และท้ายสุดจะนำมาซึ่ง GDP โลกที่ลดลง และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จาก Cost-push inflation และอีกหนึ่งปัจจัยท้ายสัปดาห์คือการประชุม OPEC ซึ่งมีโอกาสที่ผลการประชุมจะออกมาทั้ง 2แบบ (ขยายเวลาลดกำลังการผลิตแต่ปริมาณลดลงจาก 1.8 ล้านบาร์เรล หรือ ขยายเวลาด้วยปริมาณเท่าเดิม)
Investment Theme: แนะนักลงทุนถือเงินสด 40% โดยกรอบแนวรับ-แนวต้านบริเวณของ SET ในเดือนมิถุนายนบริเวณ 1,680-1,745 จุด แนะหันลงทุนกลุ่ม Domestic & Defensive อย่างรถไฟฟ้า (BTS, BEM ), กลุ่มอสังหาแนวราบ (GOLD, LH) พร้อมเก็งกำไรกลุ่มก่อสร้างโดยคาดเดือนนี้จะมีความคืบหน้าโครงการประมูล เช่น พระราม3 –ดาวคะนอง, ขายเอกสารคัดเลือกเอกชนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แนะเก็งกำไร CK, STEC กลุ่มค้าปลีก HMPRO
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ทั้ง 3 บริษัทไม่เข้าประมูลคลื่น 1,800mhz ลำดับถัดไปติดตามกสทช. ยื่นเรื่องให้คสช.พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหา / Brent ปรับตัวลดลง 3.7% ที่73.08 เหรียญ / หลายบริษัทต่างประเทศเริ่มออกมาตรการลดการใช้พลาสติก เช่นหลอด / ค่าเงินบาทปรับขึ้นที่ 32.6
Stock pick : N/A
Trading idea – ทยอยสะสมกลุ่มธนาคาร BBL / เก็งกำไร ANAN (แนวต้าน 4.80บาท) ภายหลังโครงการ Ashton อโศกเริ่มโอนได้แล้ว / เก็งกำไร KCE (37-39.0) ภายหลังราคาทองแดงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 4% ในขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าที่ 32.6 / เก็งกำไร CPF คาดผลประกอบการพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไรใน 2Q61 เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซั่นของการส่งออก และราคาหมูเฉลี่ยในไทยฟื้นตัวราว 29% QoQ มาที่ 60 บาท/กก. ราคาหมูในเวียดนามฟื้นตัว 30% QoQ และกว่า 70% YoY มาที่ 40,000 VND/กก.
Technical View
ไม่มีแรง Rebound ต่อเนื่อง ยังเสี่ยงหลุดกรอบล่าง : หุ้นซื้อไม่ต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. ทำให้ดัชนีไม่มีแรง Rebound ต่อเนื่อง และสัญญาณ Hammer กรอบล่าง Downtrend ยังไม่ถูกคอนเฟิร์ม ทำให้ระยะสั้นดัชนียังคงมีความเสี่ยงหลุด 1700 (กรอบล่าง) ซึ่งจะทำให้ระยะกลาง Downside เปิดมากขึ้น มองแนวรับถัดไปที่ 1680 แต่หากระหว่างวันเกิดแรง Rebound ยังมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ต
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1700-1730 จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขายลดพอร์ต แต่หากหลุดแนวรับ 1700 แนะนำ Stop Loss 2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มจนกว่าดัชนีจะเริ่มมีแนวโน้มหยุดลงที่ชัดเจน
แนวรับ : 1700, 1680 แนวต้าน : 1715, 1730
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war, การประชุม OPEC 22มิ.ย.
ปัจจัยในประเทศ: การประชุม BoT 20มิ.ย.
หุ้นเทคนิค:
ADVANC (B 188.00-190.00, Tp 193.00 // 195.00, Cut 186.00)
BBL (B 197.00, Tp 205.00, Cut 195.00)
ข่าวเด่น