คำแนะนำ
เข้าขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรบางส่วนหากไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,275-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,275 1,263 1,251
แนวต้าน 1,291 1,300 1,309
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากทั้งสองประเทศผลัดกันออกมาตรการทางภาษีเพื่อตอบโต้ระหว่างกัน(tit-for-tat) ความวิตกดังกล่าวกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 5 ซึ่งส่งผลเชิงบวกให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของทองคำยังคงถูกสกัดไว้ด้วยดอลลาร์ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.จากการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ และยังคงต้องติดตามประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาได้ขอให้ผู้แทนการค้าสหรัฐตรวจสอบรายการสินค้าจีนที่ควรถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม และขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนตัวลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,275-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเปิดสถานะขายหากราคาดีดตัวขึ้นทดสอบโซน 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยซื้อคืนเพื่อทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,275-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น