ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเริ่มทรงตัวบริเวณด้านล่างแถว 1,280 เหรียญ หลังจากที่คืนวันศุกร์เกิดแรงเทขายอย่างหนักลงมา โดยที่ค่าเงินบาทเองทรงตัวเหนือระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ และมีบางช่วงที่เงินบาทขึ้นไป 32.72 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้อยู่ที่ 32.62 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยหลักเป็นเรื่องของ Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังคงมีแนวคิดที่จะปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 2 แสนล้านเหรียญ ขณะที่ทางการจีนจะปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯเป็นจำนวน 5.2 หมื่นล้านเหรียญ ทางด้าน SPDR ยังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมในช่วง 2 วันทำการ โดยปัจจุบันถือครองที่ระดับ 828.76 ตัน สำหรับคืนนี้ จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯได้แก่ Building Permits คาดว่าจะทรงตัวหรืออ่อนตัวเล็กน้อย ขณะที่ Housing Starts คาดจะเพิ่มขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพทางเทคนิคในระยะสั้นมากราคาทองคำมี Technical Rebound โดยราคามีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆระหว่าง 1,277 – 1,282 เหรียญ โดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่แนวโน้มระยะกลางและระยะยาวเป็นขาลง จึงยังแนะนำกลยุทธ์การทยอยปิดสถานะ Long ลงไปตามจังหวะที่ราคามีการดีดตัวสูงขึ้น หรืออาจทำกำไรระยะสั้นๆลักษณะ Sideways ขณะที่ราคาทองคำไทยยังทรงตัวได้เหนือ 19,800 บาท/บาททองคำ หลังจากที่มีการปรับตัวสูงขึ้นของค่าเงินบาทอย่างมากจึงช่วยดันไม่ให้ราคาปรับตกตามราคาทองคำตลาดโลก โดยวันนี้คาดว่าราคา Gold D จะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,277 เหรียญ และแนวต้าน 1,290 เหรียญ ขณะที่ Gold Comex คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,279 – 1,293 เหรียญ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ Sideways ระหว่าง 1,277 – 1,290 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลงซื้อขึ้นขายเก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆเมื่อราคาอ่อนตัว เน้นเล่นสั้นๆเท่านั้น
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
Wait&See เน้นบริหารพอร์ตสมดุลตามการแกว่งตัวของราคา โดยภาพหลักระยะกลางและระยะยาวยังเป็นขาลง
Gold Futures M18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,830 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,030 บาท
Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,090 บาท
ข่าวเด่น