คำแนะนำ

  เสี่ยงพิจารณาเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้จำเป็นต้องพิจารณาการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันความผันผวนของราคา

แนวรับ-แนวต้าน 
แนวรับ  1,263  1,251  1,238
แนวต้าน  1,283  1,291  1,300

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.46  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2017 ขานรับตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด  สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนบริเวณ 1,270.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ตามความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังเป็นประเด็นกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง  หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์  ขณะที่จีนได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า รัฐบาลจีนพร้อมจะตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นกัน  ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์วานนี้ร่วงลงอีก 287 จุดจึงสร้างแรงหนุนให้แก่ทองคำบางส่วนและทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ลงไปทดสอบในระหว่างวัน  สำหรับวันนี้ติดตามการประชุมกนง.ซึ่งคาดว่าจะยังคงนโยบายการเงินตามเดิม, ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟดและนายมาริโอ ดรากีประธานอีซีบีในการประชุมประจำปีของอีซีบี และการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค
  ราคาทองคำมีแรงขายสลับออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อราคาดีดตัวขึ้น หากแรงขายเบาลงหรือไม่มากพอที่จะกดดันให้ราคาหลุดบริเวณ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคามีแนวโน้มจะกลับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง โดยเบื้องต้นจะมีกรอบแนวต้านระหว่าง 1,283-1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  พิจารณาเสี่ยงเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงในโซน 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อเล่นสั้น โดยลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนหากราคาหลุด 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแต่ไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การถือสถานะขายยังคงได้เปรียบ