Today Selections >> AH, BANPU, CPALL
Stock S R Comment
AH 36.50 38.25 สอท รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค. เติบโต 13.9%
BANPU 20.20 21.10 คาดกำไรไตรมาส 2 เด่น ตามราคาถ่านหิน
CPALL 76.00 78.00 คาด SSSG ไตรมาส 2/2560 ยังเป็นบวก พื้นฐานแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง
SET Dividend yield gap reached the 5th highest level since 2008
DYG : นอกเหนือจากมาตรวัด Earning Yield Gap ที่เราพูดถึงไปเมื่อวานนี้ อีกหนึ่งมาตรวัดที่น่าสนใจที่ ณ ขณะนี้ที่บ่งชี้ว่า Valuation ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก ได้แก่มาตรวัด Dividend Yield Gap (DYG) ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบส่วนต่างระหว่าง Dividend yield ของ SET Index กับ Bond yield ของไทยรุ่นอายุ 10 ปี ทั้งนี้ จากการคำนวณของเราล่าสุดพบว่า ส่วนต่างดังกล่าวตอนนี้อยู่ในระดับสูงสุดเป็นลำดับที่ 5 นับตั้งแต่ Lehman crisis ที่ 0.82% (ดูรูป)โดย Dividend yield gap ที่สูงนี้บ่งชี้ว่า ณ ขณะนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากที่นักลงทุนประเภทเน้นปันผลจะเข้ามาสะสมหุ้นปันผลดีในตลาด เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่จูงใจเมื่อเปรียบเทียบกับตราสารหนี้ในประเทศแล้ว
High yield : โดยหากโฟกัสไปยังหุ้นที่อยู่ใน Coverage ของเรา พบว่ามีหุ้นที่ ณ ขณะนี้มีอัตราปันผลจ่ายคาดการณ์ปีนี้ตั้งแต่ระดับ 4% ขึ้นไปได้แก่ PSH, BCP, HANA, QH, LPN, TOP, SCC, LH, SCB, KTB, PTTGC, ADVANC, TCAP, IRPC, PTT, AP มองเป็นอีกกลุ่มหุ้นหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการเข้าสะสมในช่วงนี้
MSCI : MSCI ตัดสินใจนำประเทศซาอุดิอาระเบียและอาร์เจนติน่าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี MSCI EM ซึ่งจะมีผลตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป ถึงแม้ว่าการโยกย้ายเงินของ Passive fund จะยังไม่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนี้ แต่มีโอกาสที่ Active managers จะเริ่มทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในประเทศ EM อื่นซึ่งรวมถึงไทยได้ในช่วงถัดไป โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ซาอุฯ เนื่องจากจะมีน้ำหนักในตะกร้าปีหน้าอยู่ที่ 2.6% มากกว่าประเทศไทยเสียอีก (ไม่นับรวมกรณีการ Listed ของ Saudi Aramco ซึ่งจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก) ส่วนประเด็นระยะสั้น ระวังการปรับพอร์ตของ Passive fund เพื่อรองรับการเพิ่มน้ำหนักหุ้น A-Shares ของจีนในดัชนี MSCI EM รอบที่ 2 ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายของ Fund flow ใน Emerging market อีกครั้ง คล้ายๆกับช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
Trade data : ติดตามรายงานตัวเลขนำเข้าและส่งออกของไทยประจำเดือนพฤษภาคมในวันนี้ ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์การเติบโตที่ระดับ 15.35% และ 9.90% ตามลำดับ โดยอาจจะต้องติดตามระดับดุลการค้าที่ออกมาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากออกมาขาดดุล อาจเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทในระยะสั้นต่อไปได้
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้น Blue chip ขนาดใหญ่ภายหลังจากที่เข้าสะสมไปเมื่อวานนี้ ซึ่งได้แก่ TOP, DTAC, IVL, PTTGC, SPRC, SCC, PTTEP, BANPU ส่วนผู้ที่อยากเข้าลงทุนเพิ่มเติม อาจมองไปยังรายชื่อหุ้นปันผลสูงที่เราแนะนำข้างต้น ประเมินว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติจะเริ่มลดลงในช่วงถัดไป จากระดับ Earning yield gap และ Dividend yield gap ของตลาดหุ้นไทยที่มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แนวรับ 1,631 แนวต้าน 1,681
Today's Event :
- JAS XD 0.30 บาท
- BJC ลูกหุ้นเข้า 732,400 หุ้น
ข่าวเด่น