ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน Valuation ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่น่าสนใจ (21/06/61)


 Today Selections   >>  AH, BANPU, CPALL

Stock          S          R         Comment
AH           36.50      38.25       สอท รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค. เติบโต 13.9%
BANPU        20.20      21.10       คาดกำไรไตรมาส 2 เด่น ตามราคาถ่านหิน
CPALL        76.00      78.00       คาด SSSG ไตรมาส 2/2560 ยังเป็นบวก พื้นฐานแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง

SET Dividend yield gap reached the 5th highest level since 2008
          DYG : นอกเหนือจากมาตรวัด Earning Yield Gap ที่เราพูดถึงไปเมื่อวานนี้ อีกหนึ่งมาตรวัดที่น่าสนใจที่ ณ ขณะนี้ที่บ่งชี้ว่า Valuation ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก ได้แก่มาตรวัด  Dividend Yield Gap (DYG) ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบส่วนต่างระหว่าง Dividend yield ของ SET Index กับ Bond yield ของไทยรุ่นอายุ 10 ปี ทั้งนี้ จากการคำนวณของเราล่าสุดพบว่า ส่วนต่างดังกล่าวตอนนี้อยู่ในระดับสูงสุดเป็นลำดับที่ 5 นับตั้งแต่ Lehman crisis ที่ 0.82% (ดูรูป)โดย Dividend yield gap ที่สูงนี้บ่งชี้ว่า ณ ขณะนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากที่นักลงทุนประเภทเน้นปันผลจะเข้ามาสะสมหุ้นปันผลดีในตลาด เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่จูงใจเมื่อเปรียบเทียบกับตราสารหนี้ในประเทศแล้ว
          High yield : โดยหากโฟกัสไปยังหุ้นที่อยู่ใน Coverage ของเรา พบว่ามีหุ้นที่ ณ ขณะนี้มีอัตราปันผลจ่ายคาดการณ์ปีนี้ตั้งแต่ระดับ 4% ขึ้นไปได้แก่ PSH, BCP, HANA, QH, LPN, TOP, SCC, LH, SCB, KTB, PTTGC, ADVANC, TCAP, IRPC, PTT, AP มองเป็นอีกกลุ่มหุ้นหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการเข้าสะสมในช่วงนี้
          MSCI : MSCI ตัดสินใจนำประเทศซาอุดิอาระเบียและอาร์เจนติน่าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี MSCI EM ซึ่งจะมีผลตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป ถึงแม้ว่าการโยกย้ายเงินของ Passive fund จะยังไม่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนี้ แต่มีโอกาสที่ Active managers จะเริ่มทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในประเทศ EM อื่นซึ่งรวมถึงไทยได้ในช่วงถัดไป โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ซาอุฯ เนื่องจากจะมีน้ำหนักในตะกร้าปีหน้าอยู่ที่ 2.6% มากกว่าประเทศไทยเสียอีก (ไม่นับรวมกรณีการ Listed ของ Saudi Aramco ซึ่งจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก) ส่วนประเด็นระยะสั้น ระวังการปรับพอร์ตของ Passive fund เพื่อรองรับการเพิ่มน้ำหนักหุ้น A-Shares ของจีนในดัชนี MSCI EM รอบที่ 2 ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายของ Fund flow ใน Emerging market อีกครั้ง คล้ายๆกับช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
          Trade data : ติดตามรายงานตัวเลขนำเข้าและส่งออกของไทยประจำเดือนพฤษภาคมในวันนี้ ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์การเติบโตที่ระดับ 15.35% และ 9.90% ตามลำดับ โดยอาจจะต้องติดตามระดับดุลการค้าที่ออกมาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากออกมาขาดดุล อาจเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทในระยะสั้นต่อไปได้
          กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้น Blue chip ขนาดใหญ่ภายหลังจากที่เข้าสะสมไปเมื่อวานนี้ ซึ่งได้แก่ TOP, DTAC, IVL, PTTGC, SPRC, SCC, PTTEP, BANPU ส่วนผู้ที่อยากเข้าลงทุนเพิ่มเติม อาจมองไปยังรายชื่อหุ้นปันผลสูงที่เราแนะนำข้างต้น ประเมินว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติจะเริ่มลดลงในช่วงถัดไป จากระดับ Earning yield gap และ Dividend yield gap ของตลาดหุ้นไทยที่มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก
          แนวรับ  1,631  แนวต้าน 1,681

Today's Event :

  • JAS  XD 0.30 บาท
  • BJC ลูกหุ้นเข้า 732,400 หุ้น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 มิ.ย. 2561 เวลา : 10:08:12

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:14 pm