คำแนะนำ
การขายอาจต้องรอจังหวะการดีดตัวขึ้น หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,276-1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไร แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,255 1,242 1,234
แนวต้าน 1,276 1,284 1,295
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากในระหว่างวันร่วงลงไปทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 6 บริเวณ 1,260.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงจากจุดสูงสุดในรอบ 11 เดือนของดัชนีดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเกิดคาด อาทิ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาดเพียง 0.2% ในเดือนพ.ค.และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียดิ่งลงสู่ระดับ 19.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2016 ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์วานนี้ปิดร่วงเป็นวันทำการที่ 8 ติดต่อกันจากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆ โดยอินเดียและตุรกีเป็นประเทศล่าสุดที่ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ทั้งนี้ การร่วงลงของสินทรัพย์เสี่ยงช่วยกระตุ้นแรงซื้อจากทองคำได้บางส่วน ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงวานนี้ -4.13 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐและติดตามผลการประชุมโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปก
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังสามารถไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยการเคลื่อนไหวของราคายังคงเป็นการแกว่งตัวในทิศทางขาลง ประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำลงทุนในกรอบราคาจากแกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,276-1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างแข็งแกร่ง ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น