สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ระดับ 24,580.89 จุด เพิ่มขึ้น 119.19 จุด หรือ 0.49% ดัชนีแนสแด็กปิดที่ระดับ 7,692.82 จุด ลดลง 20.14 จุด หรือ -0.26% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 2,754.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.12 จุด หรือ 0.19%
ปัจจัยที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก เป็นผลมาจากนักลงทุนเลือกเก็บหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังสมาคมประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หรือ โอเปก และพันธมิตร ซึ่งรวมถึงรัสเซียตกลงที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันในปริมาณที่น้อยกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า การเพิ่มการผลิตน้ำมันของโอเปกและพันธมิตรในความเป็นจริงจะอยู่ที่ระดับไม่เกิน 600,000-800,000 บาร์เรล/วันเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ปริมาณอุปทานน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นไม่มาก ส่งผลดีต่อราคาน้ำมันที่กำลังมีเสถียรภาพ
ประกอบกับมีแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้น หลังดัชนีฯลดลงต่อเนื่องใน 8 วันทำการก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่า ทั้งสองฝ่ายจะหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีตอบโต้ทางการค้าระหว่างกันที่จะเริ่มมีผลในเดือนกรกฎาคมนี้ได้หรือไม่
ข่าวเด่น