คำแนะนำ
ราคาทองคำยังมีกำลังซื้อที่ไม่มากนัก แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของราคาโซน 1,276-1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากยังไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง การลงทุนในช่วงนี้จึงเน้นไปที่การทำกำไรจากการแกว่งตัวหรือรอจังหวะราคาอ่อนตัวลงแล้วจึงพิจารณาเข้าซื้อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,255 1,242 1,234
แนวต้าน 1,276 1,284 1,295
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐในเดือนมิ.ย. อ่อนตัวลงสู่ระดับ 56.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ประกอบกับสกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นหลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของยูโรโซนซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนกิจกรรมในภาคธุรกิจของยูโรโซนฟื้นตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.หลังจากชะลอตัวมาหลายเดือน แต่กระนั้นการฟื้นตัวของราคาทองคำยังคงเป็นไปอย่างจำกัดซึ่งสะท้อนแรงซื้อในตลาดทองคำที่ยังไม่มากนัก อีกทั้งราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดดีดขึ้น 119.19 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้นตามราคาน้ำมัน ภายหลังจากที่โอเปกมีมติเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมครั้งล่าสุดแต่ไม่ระบุปริมาณชัดเจน ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงสกัดช่วงบวกของราคาทองคำที่อยู่ในสินทรัพย์ปลอดภัยเอาไว้ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.และติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า
ปัจจัยทางเทคนิค
ความแข็งแกร่งของราคาทองคำยังน้อยทำให้การลงทุนอาจต้องเก็งกำไรในลักษณะรอจังหวะ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือต้าน 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีแนวโน้มที่ราคาจะอ่อนตัวลงทดสอบโซน 1,260-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าสามารถผ่านโซนดังกล่าวได้ จะเกิดแรงซื้อตาม โดยแนวต้านระยะสั้นถัดไปจะอยู่บริเวณ 1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,260-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และการขายให้ทยอยทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,276-1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุด 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์จำเป็นต้องชะลอการเปิดสถานะซื้อออกไปก่อน
ข่าวเด่น