Market summary
เมื่อวานเป็นอีกวันที่ตลาดหุ้นผันผวน โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีแรงซื้อคืนในกลุ่มธนาคาร นำโดย SCB, KBANK, BBL และกลุ่มค้าปลีกอย่าง BJC, CPN และหุ้นปิโตรอย่าง IVL, PTTGC อย่างไรก็ตามหุ้นอย่าง BANPU เผชิญกับแรงขาย และกลุ่มโรงพยาบาลเช่นกันนำโดย BH, BDMS ณ.สิ้นวัน SET กลับมาปิดที่ 1,623 จุด (+1.7 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.8 หมื่นล้านบาท (มี Biglot BJC 820 ล้านบาท ) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานก่อนหน้าที่ 4.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 76 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 330 สัญญา
Investment theme
ระยะสั้นลุ้น 1,620 จุด เกิด Rebound ระยะยาวยังแนะ Wait&See ถึง 6 ก.ค. : เมื่อวานที่ผ่านมาเริ่มมีสัญญาณเรื่อง Tradewar ที่ดีขึ้นแบบอ่อนๆ ภายหลัง Trump ตัดสินใจชะลอแผนการกีดกันสินค้ากลุ่ม Technology ส่งออก-นำเข้าจากประเทศจีน ในขณะที่ประเทศจีนเองก็มีการยกเว้นการขึ้นกำแพงภาษีสินค้าเกษตร เช่นถั่วเหลือง , อาหารทะเลจาก 5 ประเทศเอเชีย นำโดย อินเดียและเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตามเรายังคงมองว่าปัจจัยต่างประเทศดังกล่าว ยังมีความเสี่ยงในหลายประเด็น ซึ่งยากต่อการประเมินผลกระทบ เบื้องต้นเราแนะนักลงทุนระยะยาวยังคงชะลอการลงทุน เพื่อรอดูการเจรจาขั้นสุดท้ายระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งมียอดขาดดุลกันมากที่สุดกว่า 3.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ สำหรับปัจจัยบวกในระยะสั้น เมื่อวานที่ผ่านราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 2% ที่ 76.5 เหรียญเป็นผลจากสหรัฐได้ออกมาประกาศให้พันธมิตรยกเลิกการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านทันทีในเดือนพฤศจิกายนนี้ มิเช่นนั้นจะถูกคว่ำบาตรเหมือนอิหร่าน โดยตลาดคาดว่าจะส่งผลให้ Supply หายไปประมาณ 8 แสนบาร์เรล เป็นปัจจัยสนับสนุนทางอ้อม ต่อการเก็งกำไรในวันนี้
Investment Theme: เราประเมินแนวรับบริเวณ 1,620 จุด ปัจจุบันตลาดหุ้นเริ่มเข้าสู่สภาวะ Risk Off จากประเด็นสงครามการค้าที่เริ่มรุนแรงขึ้น ซึ่งยังไม่สามารถประเมินผลกระทบอย่างชัดเจน เนื่องจากมาตรการดังกล่าวที่มีผลจริงในวันที่ 6 ก.ค.นี้ สำหรับนักลงทุนระยะยาว คงคำแนะนำ Wait&See เพื่อรอความชัดเจน ในขณะที่หุ้นยังอยู่ในพอร์ตอย่างกลุ่ม Domestic ได้แก่กลุ่มรถไฟฟ้า BTS, BEM กลุ่มอสังหา GOLD, LH
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ค่าการกลั่นปรับลดเหลือ 4.04 เหรียญ /ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นที่ 76.5 เหรียญ
Stock pick : N/A
Trading idea – สำหรับนักลงทุนระยะสั้น เรามองกรอบการเก็งกำไรบริเวณ 1,620-1645/80 จุด แนะเก็งกำไร GOLD (คาดกำไรทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องในปี 2 ปีข้างหน้า) / เก็งกำไร PTTEP / เก็งกำไร BJC แนวต้าน 53.5 บาท/หุ้น
Technical View
เริ่มมีสัญญาณ Rebound อ่อนๆ มองกรอบ 1615-1650 : ดัชนียังคงแกว่งตัวผันผวน โดยในช่วงเปิดตลาดดัชนีเกิดแรงขายอย่างรุนแรง ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. ทำให้ถือเป็นวันแรกที่เริ่มมีแรงซื้อกลับระหว่างวันอย่างชัดเจน สอดคล้องกับภาพกราฟรายสัปดาห์ที่ดัชนีเริ่ม Rebound จากแนวรับเส้น Uptrend ที่ 1615 แต่เนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง จึงมองเป็นเพียงการ Rebound ในกรอบ 1615-1650 และจังหวะยังเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ต
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading เล่น Rebound เพื่อเล่นรอบสั้นๆ ในกรอบ 1615-1650 เน้นขายตามแนวต้าน 2) ไม่มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1615-1650 เน้นซื้อแนวรับและขายที่แนวต้าน
แนวรับ : 1615, 1600 แนวต้าน : 1640, 1650
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war / สหรัฐรายงาน Core-PCE และ GDP ไตรมาสหนึ่ง 28 มิ.ย.
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
IVL (B 54.00-55.00, Tp 57.50// 60.00, Cut 53.00)
KTC (B 330.00, Tp 350.00, Cut 324.00)
ข่าวเด่น