“กังวลสงคราการค้า กระทบเศรษฐกิจ”
SET Recap
SET ปิดที่ระดับ 1,618.66 จุด ลดลง 5.32 จุด (-0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 52,323.36 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับลงตามต่างประเทศ ตลาดภูมิภาค-ตลาดในยุโรป-ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบถ้วนหน้า เหตุกังวลสงครามการค้า แม้ช่วงเช้าวานนี้รับแรงหนุนราคาน้ำมันดีดตัวตัวดันกลุ่มพลังงาน
SET Outlook
คาดดัชนีฯ ผันผวนสูง และมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อ จากนักลงทุนลดการถือหุ้นลงต่อเนื่อง .... การที่ดัชนีฯหลายวันที่ผ่านมา บางวันมีการซื้อขายในลักษณะเปิดบวก-ปิดลบ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่เล่นสั้นๆ รวมถึงทยอยขายหุ้นออกมาด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ยังไม่ดีต่อตลาด เหตุผลหลักๆ คือความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯกับประเทศอื่นๆ และการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ เราเห็นมีแรงขาย ETF ที่ลงทุนในตลาดหุ้น และความกังวลสงครามการค้ากำลังเข้ามากระทบเศรษฐกิจและกำไรบริษัทในตลาดหุ้น ทั้งนี้ นโยบายกีดกัดการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยี่ ที่สหรัฐฯกำลังพิจารณาหากนำมาใช้จะเป็นลบต่อตลาด และทำให้การเจรจาสหรัฐฯ-จีน ก่อนถึง 6 ก.ค. ซึ่งจะเริ่มใช้ภาษีนำเข้าของสองประเทศนั้นเป็นไปได้ยากขึ้น และเป็นเหตุผลที่ตลาดเหวี่ยงตัวมากตามข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ .... ราคาน้ำมันดิบ ที่ขยับขึ้น (เช้านี้ WTI $72.5 เหรียญ) จาก stock น้ำมันสหรัฐฯที่ลดลง เป็นตัวช่วยหุ้นกลุ่มน้ำมัน (PTTEP,PTT) แต่จะช่วยตลาดไม่ได้มากนัก
Recommendation
การร่วงลงของตลาดหุ้นต่างประเทศจากควมกังวลสงครามการค้า ยังฉุดให้ดัชนีฯไปไหนไม่ได้ และความเสี่ยงของตลาดยังมีอยู่ ด้วยตลาดยังมีความอ่อนไหวต่อข่าวลบที่มีเข้ามาเป็นระยะ กลยุทธ์ของเราจึงยังแนะให้ลดหุ้นที่เสี่ยงต่อการถูกขายหรือขาดปัจจัยหนุน ในขณะที่เป็นจังหวะในการเข้าเก็บหุ้นที่คาดสวนตลาดหรือขึ้นพร้อมตลาดได้ หุ้นใหญ่ที่เป็น top picks ของเรา ยังคงเน้นหุ้นน้ำมันและ Domestic play คือ PTTEP, BBL , KTC , CPN , CPF ขณะที่หุ้นขนาดเล็กที่มีปัจจัยหนุนอื่นๆ ประกอบด้วย TOA* และ SNC*
Technical : CPN, VNT, CKP
* เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ข่าวเด่น