สภาวะตลาดวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,245.65-1,252.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,800 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,810 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.33 น. ของวันที่ 29/06/61)

แนวโน้มวันที่ 02 กรกฎาคม 2561
  บรรดาผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องผู้อพยพ จนสามารถลดความขัดแย้งทางการเมืองภายในสหภาพยุโรป และ ลดความเสี่ยงของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการที่เยอรมนีต้องแบกรับผู้อพยพรวมกันกว่า 1 ล้านคนตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้พันธมิตรจากรัฐบาวาเรีย ได้ขู่ที่จะท้าทายเธอ และจะบังคับใช้การควบคุมชายแดน ซึ่งผู้นำเยอรมนีต้องการจำกัดจำนวนผู้อพยพเข้าประเทศ ด้วยการทำข้อตกลงกับสมาชิก EU ชาติอื่นๆ ทั้งนี้ การประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม สามรถบรรลุข้อตกลง โดยการจัดตั้งประเทศศูนย์กลางการรับผู้อพยพขึ้นใหม่ นอกจากนี้ ประเทศศูนย์กลางจะต้องทำการแยกผู้อพยพเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้อพยพที่แท้จริง และผู้อพยพพิเศษ ซึ่งจะมีการส่งตัวกลับประเทศ ประเด็นข้อสรุปดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้น มาที่ 1.1650 ยูโรต่อดอลลาร์ ฟื้นตัวต่อเนื่องจากจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1.5275 ยูโรต่อดอลลาร์ในวันก่อนหน้า ปัจจัยดังกล่าวหนุนราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำขยับขึ้นได้อย่างจำกัด ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ดอลลาร์บวกประมาณ 5.5% ในไตรมาส 2/2561 ส่งผลให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน ขณะที่กองทุน SPDR Gold Trust GLD ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยไม่ได้รับแรงหนุนจากผลกระทบของความขัดแย้งการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้า เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ราคาทองคำมีโอกาสจะดีดตัวขึ้นได้ต่อ โดยการดีดตัวประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเกิดการย่อตัวเพื่อลงมาสร้างฐานของราคาอีกครั้ง ทั้งนี้ ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,242-1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,254-1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากรับความเสี่ยงได้ เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ   1,242 (19,450บาท) 1,234 (19,300บาท)        1,222 (19,150บาท)
แนวต้าน   1,254 (19,700บาท)   1,267 (19,850บาท)    1,276 (20,000บาท)             
  
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ     1,242 (19,670บาท) 1,234 (19,550บาท)        1,222 (19,360บาท)
แนวต้าน    1,254 (19,870บาท)     1,267 (20,070บาท)    1,276 (20,210บาท)