มีโอกาสทรงตัว แต่การฟื้นตัวอย่างจริงจัง อาจต้องรอสงครามการค้าและค่าเงินคลี่คลาย

  ทั้งนี้การที่จีนปรับลดกำแพงภาษีศุลกากรเพื่อกระตุ้นการนำเข้า โดยนัยยะเพื่อลดประเด็นโจมตีจากสหรัฐฯ ในเรื่องสงครามการค้าและการเก็บภาษีไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตามหากมองเกมส์ของสงครามการค้า จีนอาจเลือกตอบโต้มาตรการเก็บภาษี (ซึ่งจะทำให้สินค้าจีนแพงขึ้น) ผ่านการทำสงครามค่าเงินให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง หักล้างผลกระทบของภาษี อย่างไรก็ตามแม้มาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยเรื่องของการค้า แต่ทิศทางของสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ (EM) รวมถึงไทย ที่เป็นคู่ค้าของจีน จะโดนกดดันให้อ่อนค่าไปตามกัน ซึ่งจะยังเป็นปัจจัยกดดันเงินทุนไหลออก รวมถึงระวังความผันผวนของราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หลังซาอุฯมีความเป็นไปได้ที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามข้อเรียกร้องของปธน.ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ
  คาด SET Index มีโอกาสเริ่มทรงตัว หลังครบกำหนดปิดสถานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสิ้นสุดมิ.ย. ในช่วงเย็นวันพฤหัสที่ 28 มิ.ย. และค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวอย่างจริงจังยังอาจต้องรอความกังวลจากสงครามการค้าคลี่ รวมถึงสงครามค่าเงิน (Currency war) คลี่คลาย ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาอีกช่วงหนึ่ง 
Investment Theme เน้นหุ้นที่ซื้อขายด้วย Valuation ที่ไม่แพง BBL, KTB, KBANK, ROBINS, SPALI, AP, RATCH / เก็งกำไรหุ้นส่งออก KCE, HANA, DELTA, GFPT* / ส่วนกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, BANPU หาจังหวะเก็งกำไรแบบตั้งรับเมื่ออ่อนตัวหรือมี panic sell
ภาพรวมกลยุทธ์: ยังมีโอกาสฟื้นตัวในกรอบ 1590-1630 จุด เพียงแต่การปิดต่ำกว่า 1600 จุด เป็นความเสี่ยงต่อภาพทางเทคนิคที่อาจฉุดดัชนีลงทดสอบ 1580 จุด หรือต่ำกว่า ทำให้ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ RATCH, MAJOR / เก็งกำไร GOLD* (เป้า 12 ตัดขาดทุน 10.00), BEC (เป้า 8.70 ตัดขาดทุน 7.60)
แนวรับ 1584 / แนวต้าน : 1612 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

ประเด็นการลงทุน
  จีนปรับลดภาษีกระตุ้นการนำเข้า – รัฐบาลจีนมีคำสั่งปรับลดอัตราภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ โดยคำสั่งดังกล่าวครอบคลุมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค และยานยนต์ โดยยภาษีรถยนต์จากเดิมที่มีการเรียกเก็บที่ระดับ 20-25% นั้น จะปรับลดลงเหลือ 15% ขณะที่ภาษีชิ้นส่วนรถยนต์จะลดลงเหลือ 6% จากระดับเดิมที่ 8-25% เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดนำเข้าของประเทศ
  ทรัมป์เรียกร้องซาอุฯปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน – ปธน.ทรัมป์เรียกร้องซาอุฯปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อสกัดการเพิ่มสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบ
  กลุ่มเช่าซื้อ – ประกาศว่าด้วยสัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่มีผล 1 ก.ค. โดยรวมถือว่าดีกว่าตลาดคาด โดยไม่มีการพูดถึงประเด็นควบคุมการดำเนินธุรกิจปกติ เพียงแต่ให้ระบุให้ชัดเจนในสัญญา  การปิดยอดเร็วกว่าคาดจะได้ลดดอกเบี้ยคืน 50% ของยอด รวมถึงคุมดอกเบี้ยผิดนัดชำระ เรามองความชัดเจนดังกล่าว มีโอกาสทำให้หุ้นกลุ่มการเงินและเช่าซื้อ ม๊โอกาสฟื้นตัว
  GGC (Not rated) - บริษัทแจ้งข่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ พบว่าสินค้าคงคลังมีปริมาณต่างจากระบบอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นไปได้ว่ามีกระบวนการทุจริตมูลค่าสูงถึง 2,100 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกำไรที่ทำได้แต่ละปี ทำให้เบื้องต้นเราประเมินว่าเสี่ยงต่อการตั้งสำรองก้อนใหญ่ (ประมาณ 2 บาท/หุ้น) ดังนั้นนักลงทุนที่มีหุ้น โปรดติดตามข้อมูลและข่าวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการเข้าลงทุนช่วงนี้ / ขณะที่ผลกระทบต่ PTTGC (ถือหุ้น 72%) อยู่ที่ 3.2% ของคาดการณ์กำไร ซึ่งถือว่าจำกัด 
ประเด็นติดตาม: 2 ก.ค. – ตัวเลขเงินเฟ้อไทย เดือน มิ.ย. // 6 ก.ค. – FOMC meeting minutes, ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ, มาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้า จีน-สหรัฐฯ มูลค่า 34 พันล้านเหรียญฯ มีผลบังคับใช้
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)