“Domestic Play”

CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ฟื้นตัวต่อ” ต้าน 1624/1630จุด รับ 1600/1594จุด ตลาดจับตานโยบายการค้าอย่างใกล้ชิด ขณะที่ตัวเลข ISM Manufacturing สหรัฐฯที่ 60.2 มากกว่าคาดที่ 58.5 เป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจโลกยังแข็งแรง เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับในประเทศ รองนายกฯสมคิดเตรียมเชิญชวนนักลงทุนฮ่องกงลงทุนใน EEC เพื่อตั้งให้ไทยเป็นไซเบอร์พอร์ท กระตุ้นเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ ผสานธกส.ทุ่มงบ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อฟื้นเศรษฐกิจฐานราก หนุนเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง วันนี้แนะ Theme “Domestic Play” : ROBINS, CPALL, ERW

Nomura : Key Factors

• (*) Trade: แคนาดาเริ่มเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ วงเงิน 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์
• (*) Trade: EU ขู่เก็บภาษีต่อสหรัฐ 2.94 แสนล้าน หากTrumpเพิ่มภาษีรถยนต์นำเข้าจากEU
• (+) US: ISM Manufacturing เดือนมิ.ย. ที่ 60.2 มากกว่าคาดที่ 58.5
• (+) TH: รองนายกฯสมคิดชวนฮ่องกงลงทุนใน EEC เพื่อตั้งให้ไทยเป็นไซเบอร์พอร์ท
• (+) TH: ธกส.ทุ่มงบ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อฟื้นเศรษฐกิจฐานรากด้วยการกระตุ้นการท่องเที่ยว
• (*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-1,850ลบ.,Long Future +11,439สัญญา,ขายBond -782ลบ.
• (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.28% สู่ $73.94/bbl / BRT -2.69% สู่ $77.30/bbl

Nomura Daily Top Picks: ROBINS, CPALL, ERW

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ฟื้นตัวต่อ” แนวต้าน 1624/1630จุด รับ 1600/1594จุด ตลาดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยทางแคนาดาได้เริ่มบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ วงเงิน 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียม ขณะที่ EU ขู่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 2.94 แสนล้านดอลลาร์ หาก Trump ประกาศเพิ่มการจัดเก็บภาษีต่อรถยนต์นำเข้าจากยุโรป ซึ่งนั่นก็ทำให้ Trump ตอบโต้ด้วยการส่งสัญญาณต่อ WTO ว่าจะกระทำการบางอย่างหากสหรัฐฯไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นเหมาะสม ดังนั้น ยังคงต้องจับตาประเด็นการค้าอย่างใกล้ชิด ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังเติบโตต่อเนื่อง หลังตัวเลข ISM Manufacturing เดือนมิ.ย. ที่ 60.2 มากกว่าคาดที่ 58.5 เป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจโลกยังแข็งแรง ประกอบกับแรงหนุนในประเทศ รองนายกฯสมคิดเตรียมเชิญชวนนักลงทุนฮ่องกงลงทุนใน EEC เพื่อตั้งให้ไทยเป็นไซเบอร์พอร์ท กระตุ้นเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ผสานธกส.ทุ่มงบ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อฟื้นเศรษฐกิจฐานรากด้วยการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ชุมชน เป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม

Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5 %

Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play KBANK, BBL, ROBINS, GLOBAL, CPALL, TOA, AMATA, WHA, CK, STEC, PYLON, BH, AOT, ERW และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) วันนี้เน้น “Domestic Play”

    ราคาน้ำมันดิบ BRENT อยู่ในแนวโน้มแกว่งขึ้น PTT, PTTGC นำตลาด
    Rebound Play : หุ้นใน SET 100 ที่ลงแรงกว่า SET ตั้งแต่วันที่ 20 เมย -ปัจจุบัน  คือ -40% ถึง -11% ได้แก่ WORK, JWD, PTTGC, PTT, IRPC, BH, MINT, MTC, CPALL, SCC, BJC
    BRI Play : ภาครัฐย้ำ EEC จะเป็น Engine growth สำคัญผลักดันไทยไปสู่ Valued driven economy และจะเร่งโครงการเร่งด่วน EEC 6.8 แสนลบ.ให้จบทัน 1Q19F โดยวันนี้จะมีการขายซอง TOR Hispeed เชื่อมโยง 3 สนามบิน หนุน BANK(BBL, KBANK),รับเหมา(CK, STEC PYLON, SEAFCO), นิคม(AMATA, WHA) และกลุ่มทุน PTT-BTS-STEC-RATCH
    ICT : กสทช แบ่งคลื่น 4G เพื่อให้เหมาะในการประมูล บวกต่อ ADVANC DTAC
    การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีและสาย สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เริ่มแล้ววานนี้ บวกต่อ STEC, BTS, PYLON
    Portfolio Top Picks JULY 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, STEC, ROBINS, ERW

Investment Theme:

2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA,  IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL,  MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

ROBINS (TP18F 74*): Support 56.5/55.5 Resistant 58.25/60.0

• Theme: Domestic Play
• Earnings Outlook: โมเมนตั้มกำไร 2Q18F เราคาดจะโตเร่งขึ้น +13%y-y จาก 1)ทำ Clearance Sales ลดลง หนุน Margin 2)สัดส่วนสินค้า private brand ที่จะเพิ่มขึ้นจาก เป็น 13%ของรายได้รวม 3)รายได้ค่าเช่าพื้นที่เติบโตจากการเปิด Lifestyle 2 แห่งในช่วงกลางปี17  ในขณะที่ 2H18F จะเปิด Lifestyle center อีก 2 สาขา โดยรวมคาดกำไรสุทธิปี 18F โต +13%y-y
• Valuation: ราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่ม มี PER18F ต่ำสุดในกลุ่มที่ 21x (vs กลุ่มฯที่ 31x) นอกจากนี้ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง -21%YTD vs SET -8%YTD มองเป็นจุดที่น่าเข้าลงทุนรอบใหม่
• Catalyst: คาดได้รับอานิสงส์บวกจากตลาด Rebound ซึ่ง ROBINS มี Adjusted Beta สูง 1.3 +  ภาวะการบริโภคที่ดีขึ้นแบบกระจายตัว + กลุ่มค้าปลีกมีสถิติราคาหุ้นย้อนหลังช่วงบอลโลก มัก Outperform ตลาด

CPALL (TP18F 102*): Support 73.5/72.75 Resistant 76/77

• Theme: Domestic play
• Earnings Outlook: คาดกำไร 2018F ยังเพิ่มขึ้น 20% ตามการบริโภค โดย SSSG คาด +4% + สาขาใหม่ 700 แห่งและทิศทางกำไรระยะยาวยังสดใส จากโมเดลธุรกิจแข็งแกร่ง สาขาครอบคลุม + เน้นด้านอาหาร ซึ่งมั่นคงและ Margin สูง 
• Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับลงมา 15% ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาตามกลุ่ม Big cap และเม็ดเงินต่างชาติที่ขายหนัก ขณะที่เชิงพื้นฐานยังเติบโตดี 20%y-y เรามองเป็นจุดเข้าลงทุนที่ดี ซื้อขาย PER18F 28x เท่า ยังต่ำกว่าช่วงพีคที่เคยสูง 35x และเป็น Big cap ที่ยังเติบโตดี 
• Catalyst: รายได้เกษตรกรโต 7.8% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 13 เดือนเป็นปัจจัยบวกหนุนกลุ่มค้าปลีก + ภาวะการบริโภคที่ดีขึ้นแบบกระจายตัว + มีสถิติราคาหุ้นย้อนหลังช่วงบอลโลก Outperform ตลาดเฉลี่ย +9.7%

ERW (TP18F 10.0*):  Support 6.0/5.8 Resistant 6.5/6.75

• Theme:  Earnings Play
• Earnings Outlook: คาดกำไร 2Q18F จะลดลง y-y แต่ถือเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว จากผลของนักท่องเที่ยวรัสเซียจากบอลโลก และการปิดปรับปรุงชั่วคราว JW Marriot แต่ภาพรวมทั้งปีคาดยังเติบโต Double digit จากความสำเร็จหา Business model ที่ Well balanced มีหลากหลายแบรนด์โรงแรม โดยเฉพาะ Hop Inn ที่ประสบความสำเร็จมาก และปีนี้วางแผนเปิดเพิ่ม 7 แห่ง
• Valuation: ราคาหุ้นรอบ 3 สัปดาห์ปรับลงแรง 25% จากผลชั่วคราว 2Q18F อ่อนตัว มองเป็นจุดซื้อกลับที่ได้เปรียบเชิงต้นทุน และ Valuation ที่ลงมาเหลือ PER 18F 24.8x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอดีตที่สูงถึง 37.5x
• Catalyst: มองตลาด Rebound สั้น และเห็นกลุ่มผู้นำแต่ละ Sector ฟื้นตัวแรงวานนี้ ยังเหลือ ERW ที่มี Beta สูง + บอลโลกจะสิ้นสุด 15 ก.ค. ทำให้นักท่องเที่ยวคาดจะเริ่มฟื้นตัว  +  ค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติม