คำแนะนำ
หากราคายืนเหนือ 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ให้เปิดสถานะซื้อ(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นจนยืนเหนือ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แนะนำว่าการเปิดสถานะขายอาจต้องชะลอออกไปก่อน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,248 1,237 1,222
แนวต้าน 1,266 1,272 1,283
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางกว่าปกติเนื่องจากตลาดโลหะมีค่านิวยอร์กปิดทำการในวันชาติสหรัฐ (Independence Day) ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ก่อนที่สหรัฐจะเตรียมเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการคิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็เตรียมเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกันในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค. ส่งผลกดดันสินทรัพย์เสี่ยงในหลายประเทศให้ปรับตัวลดลง สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 1,261.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขาย สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก ADP , จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนี PMI ภาคบริการ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประจำวันที่ 12-13 มิ.ย.เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีแนวโน้มดันขึ้นสู่บริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซนดังกล่าวขึ้นไป ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะออกมา สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,272ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
สามารถถือสถานะซื้อต่อหากราคาย่อตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือหากรับความเสี่ยงได้สูงอาจเปิดสถานะซื้อเพิ่มหากราคายืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ เพื่อทยอยปิดสถานะทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้าน 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ราคาทะยานขึ้นจนยืนได้ สามารถถือต่อเพื่อรอทำกำไรที่แนวต้านถัดไป
ข่าวเด่น