|
|
|
|
|
|
เลือกเก็งกำไรรายตัว ระหว่างรอพัฒนาการสงครามการค้า
ตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้นก่อนถึงวันกำหนดบังคับใช้มาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯและจีนในวันพรุ่งนี้ ประกอบกับการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC minutes) รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในช่วงคืนวันนี้มีโอกาสเป็นแรงกระตุ้นให้เงินเหรียญฯกลับมาฟื้นตัวแข็งค่าได้เมื่อพิจารณาจากมุมมองของเฟดที่แข็งกร้าวขึ้น (hawkish) ในการประชุมครั้งล่าสุด ขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันยังคงเป็นในลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบด้วยอัพไซด์ที่จำกัดจากแรงกดดันของปัจจัยการผลิตในระบบที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นทดสอบกรอบบนของช่วงการแกว่งตัวที่ 1590-1630 จากโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินเหรียญฯที่อ่อนแรงลง
ในช่วงสั้นและแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวทางเทคนิคที่ช่วยสร้างจิตวิทยาการลงทุนหุ้นไทยในเชิงบวก อย่างไรก็ตามด้วยปัจจัยพื้นฐานและบรรยากาศการลงทุนภายนอกที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากจากช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้การฟื้นตัวต่อเนื่องของดัชนียังจำกัดที่ระดับ 1650-1660 จุด และมีโอกาสชะลอตัวลงหลังขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ การเก็งกำไรระยะสั้นยังคงต้องกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง
ทั้งนี้คาดตลาดเลือกผลักดันหุ้นรายตัวที่ปรับลดลงมาก และมีการถือครองน้อย (under-owned) หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี หรือผ่านจุดต่ำสุด อาทิ BBL, BANPU, RATCH, SAPPE, GUNKUL*, PSTC*, AEONTS* / หุ้นที่โมเมนตัมระยะสั้นเป็นบวก BDMS, SPALI, CCET*, SUC*, CPN, MTC, HMPRO
กลุ่มที่ควรระวัง โรงกลั่น, หุ้นกลุ่มเหล็ก คาดจะมีผลประกอบการไตรมาส 2/61 ค่อนข้างอ่อนแอ การเก็งกำไรเป็นแค่ Money game ที่ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง
Investment Theme 1) ธนาคารเล็กโดนผลกระทบฟรีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า TISCO, KKP, TCAP 2) หุ้นที่ซื้อขายด้วย Valuation ที่ไม่แพง BBL, KTB, KBANK, ROBINS, SPALI, AP, RATCH 3) เก็งกำไรหุ้นส่งออก KCE, HANA, DELTA, GFPT* 4) กลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, BANPU หาจังหวะเก็งกำไรแบบตั้งรับเมื่ออ่อนตัวหรือมี panic sell
ภาพรวมกลยุทธ์: กรอบการฟื้นตัวยังจำกัดที่ 1650-1660 เน้นเก็งกำไรรายตัวโดยกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ MTC, AEONTS / เก็งกำไร GOLD* (เป้า 12 ตัดขาดทุน 10.00), BEC (เป้า 8.70 ตัดขาดทุน 7.60)
แนวรับ 1620 / แนวต้าน : 1640 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
เสียงแตกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย – กนง.ระบุหากเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสู่กรอบเป้าหมาย มีโอกาสเริ่มมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ รมว.คลัง แย้งว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 1.50% ยังไม่สูงเกินไป และยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้น
ชงครม.อนุมัติทางคู่ 9 เส้นทาง – คมนาคมเร่งผลักดันรถไฟทางคู่ 9 เส้นทางเสนอ ครม.เห็นชอบภายในปี 61 พร้อมลงนามกู้เงินเอดีบี 3.4 พันลบ. สร้างถนน 4 เลน เส้นทางอีสานระยะที่ 2 ใน 3 เส้นทาง คาดแล้วเสร็จปี 2562
BEAUTY (Not rated) – ราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรง หลังผู้บริหารให้ข้อมูลแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลง ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 คาดจะลดลง QoQ และ YoY หรือลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 ต่อเนื่อง ทำให้หุ้นเสียความเป็น growth stock และมีแนวโน้มถูกซื้อขายด้วย PER ที่ลดลง (de-rating) ตัวเลขคาดการณ์เป้าหมายเติบโตรายได้และอัตรากำไรใหม่แสดงถึงความเป็นไปได้ที่กำไรจะลดลง 25% เหลือ 900 ล้านบาท ต่ำกว่าตัวเลขกำไรเฉลี่ยที่ตลาดคาดที่ 1,600 ล้านบาทมาก หากอิง PER 25-30 เท่า (จากอดีต 50-60 เท่า) ราคาเหมาะสมอาจลดลงเหลือเพียง 7.7-9.2 บาท ยังคงมุมมองระวังต่อหุ้นในกลุ่มเครื่องสำอางค์เช่นที่เตือนมาหลายครั้งในช่วง มิ.ย.
ประเด็นติดตาม: 6 ก.ค. – FOMC meeting minutes, ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ, มาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้า จีน-สหรัฐฯ มูลค่า 34 พันล้านเหรียญฯ มีผลบังคับใช้ |
บันทึกโดย : วันที่ :
05 ก.ค. 2561 เวลา : 10:00:02
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น