คำแนะนำ

  อาจรอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,248ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกชะลอเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคา

แนวรับ-แนวต้าน 
แนวรับ  1,248  1,237  1,222
แนวต้าน  1,266  1,272  1,283

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง  ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์  หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจหลายหลายการที่แย่เกินคาด  อาทิ  จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 231,000 ราย  การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐจาก ADP เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดเพียง 177,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการจากมาร์กิตชะลอตัวสู่ระดับ 56.5 ในเดือนมิ.ย.  ด้านรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประจำวันที่ 12-13 มิ.ย. ยังคงย้ำจุดยืนปรับขึ้นดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป  แต่กรรมการเฟดได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าซึ่งข้อมูลดังกล่าวสร้างแรงกดดันเพิ่มให้แก่สกุลเงินดอลลาร์  อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัดโดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดพุ่ง 181.92 จุด  ประกอบกับนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเพื่อรอดูการเคลื่อนไหวของตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก  ก่อนที่สหรัฐและจีนจะบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค.นี้  นอกจากนี้นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐ  ทั้งรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง,  อัตราการว่างงานและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนนี้เวลา 19.30 น.

ปัจจัยทางเทคนิค
  หากทองคำยังคงพยายามขยับขึ้นต่อเพื่อทดสอบแนวต้านโซน 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,272ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับสำคัญจะอยู่มาบริเวณ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  ถ้าเกิดการอ่อนตัวลงมาอาจเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพิ่มเติมหากราคาทองคำไม่หลุด 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามลดพอร์ตการลงทุนหากราคาหลุด 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์  และหากถือสถานะซื้ออยู่อาจพิจารณาปิดสถานะทำกำไรในบริเวณ 1,266-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์