ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำทรงตัวในกรอบแคบๆด้านบนระหว่าง 1,255 – 1,260 เหรียญ โดยที่ยังมีความตึงเครียดทางการค้า และวันนี้เป็นวันเริ่มแรกของสหรัฐฯที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนซึ่งคิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านเหรียญ ทางด้านดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาที่ 94.22 จุด ทางด้านดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 181.92 จุด คิดเป็น +0.75% ที่ระดับ 24,356.74 จุด ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนตัว ได้แก่ ADP Non-Farm Payrolls ที่ออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่Unemployment Claims มีคนว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาด ทางด้าน ISM Non-Manufacturing Index ที่ออกมาดีขึ้น สำหรับคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ Non-Farm Payrolls ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง อย่างไรก็ดี ข่าวสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ คือเรื่อง Trade War ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เนื่องจากสหรัฐฯส่งสัญญาณว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึง 5 แสนล้านเหรียญ ขณะที่จีนจะทำการตอบโต้ตามหลังสหรัฐฯ

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาน่าจะยังเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบแนวรับ 1,238 เหรียญ และแนวต้าน 1,260 เหรียญ ซึ่งหากตัวเลขออกมาใกล้เคียงเดิม ราคาจะเคลื่อนไหวกรอบ Sideways โดยหากราคาเคลื่อนไหวเหนือ 1,260 เหรียญ จะมีแนวต้านถัดไป 1,271 เหรียญ แต่หากทะลุแนวรับ 1,250 เหรียญ จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,238 เหรียญ จึงแนะนำเก็งกำไรกรอบแคบ และรอจังหวะเข้าลงทุน รอข่าว Non-Farm Payrolls อีกครั้งหนึ่ง สำหรับ  Gold-D คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,250 เหรียญ และแนวต้าน 1,262 เหรียญ ขณะที่ Gold Comex คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,252 – 1,264  เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

เก็งกำไรกรอบแคบระหว่าง 1,250-1,260 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position  

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ เน้นเล่นสั้นเข้าออกเร็วในวัน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆเมื่อราคาอ่อนตัว

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ตสมดุลรอติดตามข่าว Trade War และข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ
Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,810  บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,010  บาท