Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดเกิด Technical rebound นำโดยแรงซื้อในกลุ่ม Domestic อย่างกลุ่มธนาคาร SCB, KBANK, BBL กลุ่ม ICT เช่น TRUE, ADVANC กลุ่มก่อสร้าง STEC กลุ่มค้าปลีกอย่าง BJC, CPALL และมีแรงซื้อคืนใน BEAUTY ภายหลังผู้บริหารแจ้งตลาดเตรียมซื้อหุ้นคืน สิ้นวัน SET กลับมาปิดที่ 1,614.5 จุด (+13.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.5 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 1,706 ล้านบาท และเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 2,316 สัญญา
Investment theme
สงครามการค้าโลกเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ สัปดาห์นี้จับตาการ Preview ผลประกอบการ : เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐแถลงขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 25% ในสินค้า 818 รายการรวมมูลค่า 3.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ นำโดย Pumps, Turbine ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรในอุตสาหกรรมหนักต่างๆ ในขณะที่จีนก็ตอบโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีในวงเงินเท่ากันในสินค้าเกษตรเช่นถั่วเหลือง,อุตสาหกรรมการบิน, ผักผลไม้และอื่นๆ และในวันที่ 24 ก.ค.และ 31ก.ค.นี้ สหรัฐจะมีการทำประชาพิจารณ์เพื่อขึ้นภาษีอีก 284 รายการ วงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญ (รวม 5.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) โดยนักวิเคราะห์คาดผลกระทบต่อ GDP โลกจะกระทบประมาณ 0.4% ในปี 2019 ผ่านการค้าโลกที่ลดลงประมาณ 4.0% โดยเบื้องต้นเราประเมินว่าหากไม่สามารถหาทางออกได้ ในระยะยาวจะส่งผลให้เงินเฟ้อในประเทศมหาอำนาจดังกล่าวและประเทศอื่นๆสูงขึ้นผลักดันจาก Cost push inflation แต่ GDP หดตัวซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและถือเป็นความเสี่ยงต่อนโยบายการเงินโลก ในขณะที่เรายังคงแนะเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่ได้รับปัจจัยกระทบจากต่างประเทศเช่นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราประเมินกรอบ SET บริเวณ 1,630 จุด +/- โดยมองว่าตลาดได้ Price in ประเด็นดอกเบี้ยสหรัฐผ่าน Dotplot และสงครามการค้าไปแล้วส่วนหนึ่ง (บนวงเงิน 3.4-5.0 หมื่นล้าน) ในขณะที่ดอลลาร์เริ่มกลับมาชะลอการแข็งค่า ถือเป็น Sentiment บวกอ่อนๆต่อการลงทุน โดยแนะจับตาการ Preview ผลประกอบการ 2Q18 นำโดยกลุ่มธนาคาร เราคาดกำไร 4.0 หมื่นล้านบาท (+4%YoY, -11%QoQ) และกลุ่มอื่นๆ พร้อมคงคำแนะนำ ทยอยสะสมกลุ่ม Domestic อย่างก่อสร้าง (CK, STEC) กลุ่มธนาคาร BBL กลุ่มค้าปลีก BJC กลุ่มอสังหา GOLD
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ธนาคารกลางอินเดียปรับขึ้น Repo rate ครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ 6.25% / รัฐมนตรีอิหร่านเผย Trump บิดเบือนราคาน้ำมันโลก /นาย Davis รมว.ฝ่ายกิจการอังกฤษประกาศลาออกจากตำแหน่ง คาดเป็นผลจาก Brexit / Dollar index กลับมาอ่อนค่าที่ 93.9 เหรียญ / ค่าการกลั่นกลับมายืนในระดับ 5.50 เหรียญ
Stock pick : N/A
Trading idea – แนะเก็งกำไร STEC (ราคาเป้าหมาย 25.0 บาท) / GOLD (คาดกำไรทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องใน 2 ปีข้างหน้า) / ทยอยสะสม BCP ปัจจุบัน Downside จำกัด ปันผล 5.6% คาดค่าการกลั่นเริ่มมี Downside จำกัดคาดหวังการปรับตัวขึ้นใน 3Q แนะซื้อราคาเป้าหมาย 44.0 บาท / เก็งกำไร CPF คาดงบ 2Q พลิกเป็นกำไร / ชะลอการลงทุน TASCO
Technical View
ไม่หลุด 1585 ยังคาดหวังการ Rebound ระยะสั้น-กลาง : ดัชนีแกว่งผันผวนตลอดวัน โดยในช่วงเช้า ปรับตัวลงแรงทดสอบบริเวณ Low 11585 ก่อนจะมีแรงซื้อกลับจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก ธนาคารและสื่อสาร ทำให้ภาพระยะสั้นถึงกลางคาดหวังการ Rebound ทดสอบแนวต้าน 1630 และ 1645 แต่เนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง จึงแนะนำให้เพียง Trading เล่น Rebound และพิจารณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1600-1630 หาก Rebound ยังมองเป็นจังหวะขาย และหากหลุด 1600 แนะนำ Stop Loss 2) ไม่มีหุ้น : เล่น Rebound ในกรอบ 1600-1630 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ และเล่นจบในวัน
แนวรับ : 1600, 1610 แนวต้าน : 1630, 1645
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war / 10 ก.ค. จีนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ และ 13 ก.ค.รายงานตัวเลขการค้า
ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์หน้าติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นเทคนิค:
BDMS (B 25.00-25.50, Tp 27.00// 29.00, Cut 24.70)
IVL (B 53.00, Tp 57.50, Cut 51.50)
ข่าวเด่น