ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน มีมุมมองเป็นบวกคาดดัชนีมีโอกาสปรับขึ้น (09/07/61)


 “ ปรับขึ้นตามต่างประเทศ ”

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index วันก่อน +13.34 จุด (+0.83%) ปิดที่ 1,614 จุด มูลค่าซื้อขาย 65,550 ล้านบาท โดยได้ปัจจัยบวกจากปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณไม่เก็บภาษีรถยนต์ในอัตรา 20% จากยุโรป หากยุโรปปรับลดภาษีต่อรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ ประกอบกับแรงซื้อดักการทำ Preview งบ 2Q18 โดยส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อในกลุ่ม Bank Petro Etron อย่างไรก็ตาม Foreign ขายสุทธิ 1,706 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 593 ล้านบาท นอกจากนี้ยัง Net Short TFEX 2,316 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มีมุมมองเป็นบวกคาดดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,620-1,630 จุด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยลบใหม่ และได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังสหรัฐรายงานตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลัก ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นน่าจะทำให้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัวลงเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Big Cap ส่วนสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันศุกร์แต่คาดตลาดส่วนใหญ่รับรู้ไปบ้างแล้ว

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
  กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ (BBL, KBANK, SCB และ KTB) ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในครึ่งปีหลัง
  BANPU ราคาถ่านหินกำลังขึ้นทดสอบ High ในรอบ 6 ปีครึ่งล่าสุด 116.6 US/Ton
  KCE, DELTA, HANA, CPF, GFPT และ EPG อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าล่าสุด 33.1 Bath/USD
  PSL, TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือทำ High ในรอบ 7 เดือนล่าสุด 1,612 จุด
  กลุ่มปันผลครึ่งปีเด่น ADVANC, INTUCH, KKP, QH, LH และ SPALI

หุ้นแนะนำวันนี้ : IVL (ปิด 54 ซื้อ/เป้า 75) คาดกำไรสุทธิ 1Q18 เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 7.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%qoq และ 155%yoy จากปริมาณขายและสเปรดมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น, BDMS (ปิด 25.75 ซื้อ/เป้า 27.5) ผ่านพ้นช่วงลงทุนมาแล้ว และกำลังจะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลกำไร ขณะที่ธุรกิจเริ่มเข้าสู่ช่วง High season, SVI (ปิด 4.3 ซื้อเก็งกำไร/เป้าปี 19 : 5.4) ผลประกอบการน่าจะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แนวโน้มไตรมาส 3-4 และปี 2019 คาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง จากรายได้ที่เติบโตในระดับสูงตามออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้น GPM สูงจากต้นทุนที่ลดลงจากการจัดการวัตถุดิบที่ดีขึ้น

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : CPF (ปิด 24.8 ซื้อ/เป้า 28), PLANB (ปิด 6.15 ถือ/เป้า 7)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                         
  (+) ตลาดมองบวกคาดเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังสหรัฐรายงานตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด : เมื่อวันศุกร์สหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญออกมาหลายรายการ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน และค่าจ้างต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ย โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.8% แต่ตัวเลขที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุดคือ ตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ย ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งล่าสุดพบว่าอัตราค่าจ้างดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียง 2.7% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8%สะท้อนว่าอัตราเงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวขึ้นอย่างที่วิตก ส่งผลให้ตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป
  (+) น้ำมันดิบปรับขึ้น แม้สหรัฐจะรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 73.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนใหญ่เป็นการเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงในวันก่อนหน้า และยังได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่า หลังมีการคาดการณ์กันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นไม่มากเนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันจากรายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับขึ้นขึ้นจำนวน 5 แท่น เป็น 863 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วง 2 สัปดาห์
  (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคาร แม้ภาพรวมผลการดำเนินงานจะชะลอตัวแต่คาดตลาดรับรู้ไปแล้ว : สัปดาห์นี้หุ้นในกลุ่มธนาคารจะเริ่มประกาศผลการดำเนินงาน 2Q18 โดย TISCO จะประกาศงบเป็นเจ้าแรก ในช่วงกลางสัปดาห์ ส่วนแบงก์ใหญ่จะประกาศงบกันในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นเราคาดผลกำไรของธนาคารที่เราดูแลทั้ง 8 แห่ง จะประกาศผลประกอบการออกมาหดตัวประมาณ 9%qoq จากผลของรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง (โดย SCB และ KBANK จะมีผลประกอบการหดตัวมากสุด) แต่หากเทียบ yoy คาดว่าจะยังเติบโตประมาณ 6%yoy เนื่องจากในปีนี้ธนาคารส่วนใหญ่ไม่มีการตั้งสำรองหนี้สูญจำนวนมากเหมือนปีที่ผ่านมา (คาด KTB และ KKP จะมีผลการดำเนินงานเติบโตมากสุด)


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ก.ค. 2561 เวลา : 10:21:10

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:11 am