Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เป็นอีกวันที่มีแรงซื้อเด่น นำโดยกลุ่มโรงกลั่นและ ปิโตรอย่าง TOP, SPRC, ESSO, PTTGC กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, KTB และกลุ่มพลังงานอย่าง PTTEP, BANPU และกลุ่มที่เคยปรับลงแรงอย่าง EA, CBG, RS อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่อิงการท่องเที่ยวอย่าง AOT, CENTEL, AAV เผชิญกับแรงขายเด่น ณ.สิ้นวัน SET กลับมาปิดที่ 1,643.6 จุด (+20.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.2 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 1,393 ล้านบาท แต่คงสถานะ Long SET50 index future ที่ 10,702 สัญญา
Investment theme
Traewar ยังไม่สามารถเจรจา หลายบริษัทชั้นนำเตรียมปรับขึ้นราคาสินค้า: ภายหลังการปรับขึ้นภาษีนำเข้าในหลายๆ สินค้าทั่วโลกเป็นวงกว้างอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะในสินค้าที่เป็นชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบในการนำไปผลิต (ที่อยู่ใน Supply chain) ล่าสุดเราเริ่มเห็นผู้บริหารของหลายบริษัทชั้นนำของโลก เตรียมการปรับขึ้นของราคาสินค้าเช่น Tesla ในประเทศจีนเตรียมปรับขึ้น Model X, S ประมาณ 20% , BMW เองก็เตรียมปรับขึ้นราคาขายในประเทศจีนเช่นเดียวกัน ล่าสุด Trump ขู่เตรียมเก็บขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นครั้งที่ 3 (ครั้งที่ 2 วงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญในปลายเดือน ก.ค.) เพิ่มอีก 2.0 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะมีการทำประชาพิจารณ์ในปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งเราประเมินว่าหากยังไม่สามารถเจรจาหาข้อสรุปประเด็นการกีดกันทางการค้า ท้ายสุดจะนำมาซึ่งการเร่งตัวของอัตราการเงินเฟ้อในประเทศนั้นๆ ซึ่งจะส่งผลอย่างมีนัยยะต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงิน (Monetary policy) ของธนาคารกลางเช่น FED, ECB, PBoC กลับมาที่การ Preview ผลประกอบการไตรมาสสอง เบื้องต้นเราประเมินว่าตลาดจะผันผวนตามการ Preview นำโดย กลุ่มธนาคาร, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรวมสูงกว่า 40% ของมูลค่าตลาดหลักทรัพย์
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราประเมินกรอบ SET บริเวณ 1,630+/- จุด โดยมองว่าตลาดได้ Price in ประเด็นดอกเบี้ยสหรัฐผ่าน Dotplot และสงครามการค้าไปแล้วส่วนหนึ่ง (บนวงเงิน 3.4-5.0 หมื่นล้าน) ในขณะที่ดอลลาร์เริ่มกลับมาชะลอการแข็งค่า ถือเป็น Sentiment บวกอ่อน ๆ ต่อการลงทุน โดยแนะจับตาการ Preview ผลประกอบการ 2Q18 พร้อมคงคำแนะนำทยอยสะสมกลุ่ม Domestic อย่างก่อสร้าง (CK, STEC) กลุ่มธนาคาร BBL กลุ่มค้าปลีก BJC กลุ่มอสังหา GOLD
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีลาภลอย ลำดับถัดไปจะส่งกฤษฎีตามขั้นตอน คาดมีผลบังคับใช้ในปี 2562 / ฝรั่งเศสรายงานการผลิตอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ปรับลดลง 0.2% / จีนรายงานเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ที่ 1.9%
Stock pick : N/A
Trading idea – ชะลอการลงทุนกลุ่มโรงแรม คาดได้รับผลกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญอีกครั้ง / ทยอยสะสม MACO คาดกำไร Q2 เติบโตดี ซื้อขาย Discount กลุ่ม (VGI, PLANB) อยู่สูงกว่า 47% / เก็งกำไร CPF คาดงบ 2Q พลิกเป็นกำไร / เก็งกำไร BJC คาดผลประกอบการโตเด่น YoY เมื่อเทียบกับกลุ่ม / ทยอยสะสมกลุ่มโรงกลั่น TOP, SPRC
Technical View
Break Neckline Double Bottom : ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่ม Big Cap. หลากหลายกลุ่ม ทำให้ในกราฟ 120 นาที ดัชนีสามารถทะลุผ่านแนวต้าน Neckline ของการกลับตัวขึ้นแบบ Double Bottom ได้อย่างเด็ดขาด ระยะสั้นถึงกลางมองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1650, 1665 และ 1675 ตามลำดับ ยังคงให้พิจารณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆไป
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1635-1665 และพิจาณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆ หากหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น : เล่น Rebound ในกรอบ 1635-1665 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ เพื่อเล่นรอบ
แนวรับ : 1630, 1635 แนวต้าน : 1650, 1665
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war / 13 ก.ค.จีนรายงานตัวเลขการค้า
ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์หน้าติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นเทคนิค:
PTTEP (B 135.00-137.00, Tp 143.00// 148.00, Cut 133.00)
BANPU (B 20.30, Tp 21.50, Cut 19.80)
ข่าวเด่น