ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำค่อนข้างมีความผันผวนขึ้นและลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ท่ามกลางความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินบาท จากการที่ตลาดยังมีความกังวลต่อสงครามทางการค้า ขณะที่สหรัฐฯเริ่มแสดงความคิดเห็นในการพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่า 2 แสนล้านบาท หลังจากที่จีนยังไม่ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการละเมิดสินทรัพย์ทางปัญญา ทางด้านค่าเงินบาทปรับแข็งค่าเมื่อวานนี้บริเวณ 33.15 บาท/ดอลลาร์ แต่วันนี้อ่อนค่าขึ้นไป 33.25 บาท/ดอลลาร์ สำหรับเช้านี้ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 93.95 จุด ทางด้านดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ปิดแดนบวก +0.58% ที่ระดับ 24,919.66 จุด ทางด้านดัชนีดาวโจนส์ในรูป E-mini Futures ร่วงลงเช้านี้กว่า 1% สำหรับคืนนี้คงต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ Core CPI และ PPI   ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ในเชิงเทคนิคจะเห็นถึงความผันผวนระยะสั้นค่อนข้างมากเป็นแบบไร้ทิศทางโดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,248 เหรียญ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,260 เหรียญ หากทองคำหลุด 1,248 เหรียญลงมาซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเมื่อวานนี้ ก็มีโอกาสเห็นราคาปรับลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริเวณ 1,238 เหรียญ สำหรับ  Gold-D คาดว่าจะมีแนวรับที่ 1,240 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,260 เหรียญ สำหรับ Gold Comex คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,242 – 1,262 เหรียญ อย่างไรก็ดี ระยะสั้นมากราคามีความไม่ชัดเจนจากการแกว่งตัวค่อนข้างมากของราคา

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

Wait&See รอความชัดเจนของทิศทาง หากหลุด 1,248 เหรียญ ให้ Follow Short เป็นหลัก

- นักลงทุนที่ถือ Long Position  

หาจังหวะปิดสถานะลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เน้นทำกำไรขาลงระยะสั้นๆเท่านั้น

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See เน้นบริหารพอร์ตสมดุล รอความชัดเจนของทิศทาง โดยระยะสั้นค่อนข้างผันผวนมากและหากทองคำหลุด 1,248 เหรียญ มีโอกาสเห็นทองคำปรับลงมาที่ 1,238 เหรียญ

Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,720  บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,920  บาท