Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ผันผวนสูง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีแรงขายเด่นในกลุ่มตปท.นำโดย PTT, PTTEP, PTTGC และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, KKP, SCB ในขณะที่ MK ปรับขึ้นเด่น 20%+ เป็นผลมาจาก SPALI รายงานตลาดเตรียมทำคำเสนอซื้อ และมีแรงซื้อในกลุ่มสินเชื่อและ Leasing อย่าง KTC, AEONTS และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ KCE, HANA ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,636.6 จุด (-6.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.4 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 766 ล้านบาท แต่คงสถานะ Long SET50 index future ที่ 401 สัญญา
Investment theme
สงครามการค้า ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบ แนะเลี่ยงการลงทุนกลุ่ม Commodity : ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาเผชิญกับความกังวลอีกครั้ง ภายหลังความหวังต่อการเจรจาสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกอย่างสหรัฐ-จีนลดลง โดยล่าสุดสหรัฐขู่พร้อมขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 10% มูลค่า 2.0 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ครอบคลุมสินค้ากว่า 6,031 รายการ (มีโอกาสครอบคลุมถึงสินค้ากลุ่ม Technology และ IT) จากประเทศจีน วงเงินดังกล่าวถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับการขาดดุลการค้าประเทศจีนที่ 3.75 แสนล้านเหรียญ อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่สามารถประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้น (แต่อาจส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น) เนื่องจากมาตรการต้องผ่านขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ในปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งเราประเมินว่าหากเป็นเช่นนี้ ตลาดหุ้นจะแกว่งตัวในกรอบ สอดคล้องกับการอ่อนค่าของค่าเงินในภูมิภาค เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จนกว่าจะเห็นความชัดเจน โดยระหว่างทางนี้ เราแนะนักลงทุนจับตารายละเอียดจากทั้ง 2 ฝั่งพร้อม พร้อมดูทิศทางค่าเงินเพื่อประกอบการตัดสินใจการลงทุนใน 1-2 เดือนนี้ นำโดย Yuan และ Baht พร้อมเลี่ยงการลงทุนกลุ่ม Commodity
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราประเมินกรอบ SET บริเวณ 1,630+/- จุด โดยแนะจับตาการ Preview ผลประกอบการ 2Q18 พร้อมคงคำแนะนำทยอยสะสมกลุ่ม Domestic อย่างก่อสร้าง (CK, STEC) กลุ่มธนาคาร BBL กลุ่มค้าปลีก BJC กลุ่มอสังหา GOLD และสำหรับนักลงทุนระยะยาวเราคงคำแนะนำชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน-ยุโรป
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สแตนชาร์ดเผยผลสำรวจชี้นักลงทุนสถาบันต่างชาติมีมุมมองต่อการลงทุนในประเทศจีนดีขึ้น / สมาคมนักวิเคราะห์หั่นเป้า SET จาก 1,860 จุด เหลือ 1,795จุด / Brent ปรับลดลงกว่า 7% เหลือ 74.3 เหรียญ
TEAMG เข้าซื้อขายในตลาดวันนี้
Stock pick : N/A
Trading idea – ชะลอการลงทุนกลุ่มโรงแรม คาดได้รับผลกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญอีกครั้ง / ทยอยสะสม MACO คาดกำไร Q2 เติบโตดี ซื้อขาย Discount กลุ่ม (VGI, PLANB) อยู่สูงกว่า 47% / เก็งกำไร CPF คาดงบ 2Q พลิกเป็นกำไร / เก็งกำไร BJC คาดผลประกอบการโตเด่น YoY เมื่อเทียบกับกลุ่ม
Technical View
ยืนเหนือ 1630 ยังลุ้นการกลับตัวขึ้นแบบ Double Bottom : ดัชนีอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ Neckline ที่ 1630 แต่สามารถมีแรงซื้อกลับได้ภายในวัน ทำให้ยังคงปิดยืนเหนือ 1630 จึงยังมุมองเดิมว่าดัชนีได้ Break Neckline ของรูปแบบ Double Bottom และมีแนวโน้ม Sideway Up มองแนวต้านถัดไปที่ 1650 และ 1665 ตามลำดับ แต่หากดัชนีหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit เนื่องจากจะมองเป็นการ False Break กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1630-1665 และพิจาณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆ หากหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น : เล่น Rebound ในกรอบ 1630-1665 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ เพื่อเล่นรอบ
แนวรับ : 1620, 1630 แนวต้าน : 1650, 1665
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war / 13 ก.ค.จีนรายงานตัวเลขการค้า
ปัจจัยในประเทศ: วันนี้ติดตามที่ประชุมสนช.โหวตเลือก 7 กกต.ชุดใหม่ / สัปดาห์หน้าติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นเทคนิค:
BANPU (B 20.00-20.20, Tp 21.00// 22.00, Cut 19.80)
CPALL (B 78.00, Tp 81.00, Cut 77.00)
ข่าวเด่น