กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Accumulate on Dip

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงตามคาดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบหลังสหรัฐฯเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม SET Index ถือว่าปรับตัวลงน้อยกว่าภูมิภาค นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องแต่บางลงเหลือ 767 ลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อในวันนี้ถ่วงโดยหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบปรับลงแรง 5% จากฝั่งอุปสงค์ที่กังวลว่าอาจถูกกระทบจากสงครามการค้า รวมถึงอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากซาอุดิอาระเบียและลิเบีย อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงนี้จะเห็นแรงเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่คาดว่าจะมีผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง และทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้แข็งแรงกว่าตลาด ขณะที่การปรับลงของตลาดในระยะนี้เรายังคงมองเป็นจังหวะซื้อลงทุนระยะยาว 
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง //สะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
  หุ้นเด่นเดือนก.ค. : BANPU, CPF, EPG, PTTEP, TISCO  
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมอภาค US$169ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$302ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$23ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$125ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคตามความกังวลสงครามการค้าระลอกใหม่และราคาน้ำมันดิ่งลงแรงเมื่อคืนนี้

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> IT <<

• แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.90 บาท
• คาดงบ 2Q18 จะออกมาโดดเด่นมาก จากกระแสเกมมิ่งที่แรงไม่หยุด, ยอดขายทีวีที่เร่งตัวรับบอลโลก, และผลจาก Commart JOY ช่วงโค้งสุดท้ายของไตรมาส อีกทั้ง IT ยังมีการเปิดสาขาใหม่ถึง 5 แห่ง จากที่ไม่เปิดมานาน 3 ปี
• เบื้องต้นเราคาดมีกำไรสุทธิ 24 ลบ. +30% Q-Q, +18% Y-Y ส่วนทั้งปีนี้คาด +33% Y-Y อยู่ที่ 84 ลบ.
• ราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนงบที่คาดจะออกมาดี PE2018-19 แค่ 12-15 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 20 เท่า และคาดปันผลสูง 5-6% ต่อปี

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (-) กลุ่มแบงก์ มีโอกาสเห็น Negative surprise จาก NPL ที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อในกลุ่ม SME ซึ่งนอกจากสัญญาณที่เห็นจาก TISCO ซึ่งประกาศผลประกอบการ 2Q18 แล้ว ยังเห็นสัญญาณจากลูกหนี้ SME ในบางกลุ่มอุตสาหกรรมที่เผชิญกับปัจจัยลบจากค่าเงินที่ผันผวนและสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันในธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้ง 2Q18 เป็นไตรมาสแรกของการฟรีค่าธรรมเนียมการโอนผ่าน Mobile Banking ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลกระทบรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงราว 5-7%Q-Q เราคงคำแนะนำ ชะลอการลงทุนในธนาคารใหญ่ไปก่อน 
  (0) TISCO รายงานกำไรสุทธิ 2Q18 น้อยกว่าคาดที่ 1.71 พันลบ. (-3% Q-Q,+13.5% Y-Y) เนื่องจากมีรายการพิเศษจากการดำเนินงานที่ถูกยกเลิก (บ.ย่อยที่ทำธุรกิจบัตรเครดิต) จำนวน 45 ลบ. กำไรปกติใกล้เคียงกับที่คาด แต่ตลาดอาจจะตอบรับเชิงลบต่อ Extra item และ NPL ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ (จากกลุ่ม SME) ซึ่งทำให้ NPL ขยับขึ้นเป็น 2.7% แต่เนื่องจาก Coverage ratio ที่ยังแข็งแกร่งที่ 185% และแนวโน้มกำไร 3Q18 ที่คาดว่าน่าจะดีขึ้น Q-Q เพราะไร้รายการพิเศษ เราจึงคงคำแนะนำซื้อ หากราคาหุ้นมี Sell on fact และคงราคาเหมาะสมที่ 98 บาท 
  (+) BEM เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 1,030 ลบ. (+40% Q-Q, +43% Y-Y) หนุนจากกำไรขายเงินลงทุน (ขาย XPLC ให้ CKP) 242 ลบ. ส่วนกำไรปกติคาดหดตัว 2% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาล แต่เติบโต 9% Y-Y จากรายได้ที่เติบโตดีทั้ง 3 ธุรกิจ  และส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมที่ปรับขึ้น ส่วนแนวโน้มกำไรปกติ 3Q18 คาดขยายตัวต่อเนื่อง จากวันหยุดที่น้อย คงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 3,709 ลบ. +19% Y-Y นอกจากนี้ ยังมี Upside จากการเปิดประมูลทางด่วน 3 สาย และรถไฟฟ้าอีก 1 เส้นที่คาดเปิดประมูลปีนี้ คงคำแนะนำซื้อลงทุน ราคาเหมาะสม 10 บาท
  (0) TKN คาดกำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 166 ลบ. (+9.2% Q-Q, +23% Y-Y) ถือเป็นการฟื้นตัวที่ช้ากว่าคาด เพราะรับรู้ต้นทุนสาหร่ายล็อตใหม่ราคาถูกลงเพียง 1.5 เดือน กอปรกับการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่ยังไม่ถึงระดับ Economies of Scale อัตรากำไรขั้นต้นจึงยังไม่กลับไปสู่ระดับที่เคยทำได้ แต่การเติบโตของรายได้ยังดูดี และคาดกำไรจะกลับมาโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2H18 จาก High Season และต้นทุนสาหร่ายใหม่ที่ถูกลงเต็มไตรมาสตั้งแต่ 3Q18 รวมถึงอัตราการใช้กำลังการผลิตจะทยอยเพิ่มขึ้น แต่เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นที่ช้ากว่าคาด เราจึงปรับลดกำไรสุทธิปี 2018 ลง 9% เหลือ 744 ลบ. +22% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 19 บาท จากเดิม 21 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
  (0) ERW เราคาดกำไร 2Q18 ที่ 40 ลบ. -86.2% Q-Q, -31.2% Y-Y จากการปรับปรุงห้องพักโรงแรม JW Marriott และนักท่องเที่ยวรัสเซียที่หดตัวชั่วคราวจากฟุตบอลโลก อย่างไรก็ตามคาดเป็นจุดต่ำสุดของปีและจะเห็นการฟื้นตัวใน 2H18 โดยเฉพาะไตรมาส 4 ซึ่งเป็น High Season เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018 ทำ New High ต่อเนื่อง +18.1% Y-Y อยู่ที่ 623 ลบ. ขณะที่ ราคาหุ้นปรับลงมามากจนทำให้ EV/EBITDA ต่ำเพียง 12.6 เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 14 เท่า เราจึงมองเป็นโอกาสในการซื้อ ราคาเป้าหมาย 9 บาท 
  (0) TEAMG เป็นผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม โดยมีจุดเด่นที่บริการที่ครบวงจรและเป็น One Stop Service รวมถึงมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการและหลายอุตสาหกรรม ขณะที่การลงทุนภาครัฐเพื่อยกระดับและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศเป็นบวกโดยตรงต่อธุรกิจของ TEAMG รวมถึงยังมีโอกาสเติบโตในส่วนงานภาคเอกชนและตลาดต่างประเทศที่เร่งลงทุนด้วยเช่นกัน เราคาดกำไรสุทธิปี 2017-2020 เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 23.4% CAGR ประเมินราคาเหมาะสมที่ 4.20 บาท (FSS เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ TEAMG)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• (-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลงหลังจากความกังวลเรื่องสงครามทางการค้าที่อาจกระทบต่อกำไรบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้การลดลงของราคาน้ำมันดิบกว่า 5% กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
• (-) ประเด็นสงครามทางการค้าและ Brexit ยังคงกดดันตลาดหุ้นยุโรป
• (0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสมผสาน หลังจากตลาดปรับตัวลงอย่างหนักเมื่อวานนี้จากประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้เช้านี้เห็นแรงซื้อกลับบางส่วนจากนักลงทุน
• () ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมาอยู่บริเวณ 33.30-33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 3.73 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 70.38ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขการผลิตของซาอุฯและรัสเซียในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น รวมไปถึงสถานการณ์การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียเริ่มคลี่คลายลง
• () ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 11.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1244.40ดอลลาร์/ออนซ์