Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายพบแรงขายทำกำไรในกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP ภายหลังราคาน้ำมันดิบปรับลง และ CPALL เผชิญกับแรงขายเด่น อย่างไรก็ตามเกิด Technical rebound ใน DDD, BEAUTY ในขณะที่ TEAMG เข้าซื้อขายวันแรกปรับตัวขึ้น 11 % พร้อมมูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 1.6 พันล้านบาท ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,640.9 จุด (+4.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 558 ล้านบาท แต่คงสถานะ Long SET50 index future ที่ 2,142 สัญญา
Investment theme
คาดตลาดหุ้นแกว่งรอดูผลประชาพิจารณ์ประเด็นสงครามการค้าสหรัฐ-จีน : คาดตลาดหุ้นจะแกว่งตัวในกรอบ พร้อมมูลค่าการซื้อขายที่ลดลง จนกว่าจะถึงช่วงการทำประชาพิจารณ์ประเด็นการเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนครั้งที่ 3 ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตามในระหว่างทางนี้ จับตาการหารือประชุมเพื่อร่วมเจรจาปัญหาครั้งนี้ โดยล่าสุดแม็กซิโกและยุโรปเตรียมเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ ในขณะที่สภาสูงสหรัฐมีมติโหวตผ่านร่างด้วยคะแนนเสี่ยงสูงกว่า 88-11 เป้าหมายเพื่อต้องการให้มีบทบัญญัติการบริหารประเทศ หรือเรียกได้ว่าต้องการให้สภาเข้ามามีบทบาทเห็นชอบกับการสั่งการในบางครั้งของ Trump ถึงแม้การโหวตครั้งนี้อาจไม่มีผลต่อผลเรื่องสงครามการค้า แต่เป็นการแสดงถึงทีมงานทั้งส.ส และ.ส.ว.พรรค Republican เริ่มมีความเห็นขัดแย้งกับ Trump ซึ่งจะมีผลมากเนื่องจากในเดือนพฤศจิกายนนี้จะครบกำหนดการเลือกตั้งส.ส.สหรัฐอีกครั้ง ซึ่งเราประเมินว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งไม่มากก็น้อยต่อฐานเสียงของปธน. Trump
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราประเมินกรอบ SET บริเวณ 1,630+/- จุด โดยแนะจับตาการ Preview ผลประกอบการ 2Q18 พร้อมคงคำเลี่ยงการลงทุนกลุ่ม Commodity หันเข้าทยอยสะสมกลุ่ม Domestic อย่างก่อสร้าง (CK, STEC) กลุ่มธนาคาร BBL กลุ่มค้าปลีก BJC กลุ่มอสังหา GOLD และสำหรับนักลงทุนระยะยาวเราคงคำแนะนำชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน-ยุโรป
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – พาณิชย์ปรับเป้ายอดส่งออกประเทศไทยขึ้นจาก 8% เป็น 9% / BDI ปรับตัวขึ้น 46 จุด เป็น 1,632 จุด / ค่าเงินบาทกลับมาทรงตัวในระดับ 33.2 เหรียญ / BoT แทรกแทรงค่าเงินเพื่อชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท
KTC ซื้อขายบนพาร์ใหม่วันนี้ จาก 10 บาท เป็น 1.0 บาท
Stock pick : N/A
Trading idea – ชะลอการลงทุนกลุ่มโรงแรม คาดได้รับผลกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญอีกครั้ง / เก็งกำไร CPF คาดงบ 2Q พลิกเป็นกำไร / เก็งกำไร BJC คาดผลประกอบการโตเด่น YoY เมื่อเทียบกับกลุ่ม / ทยอยสะสม BEM คาดกำไรเติบโตต่อเนื่องจนถึง Q3
Technical View
1630 ยังมีแรงซื้อกลับได้ดี ยังคาดหวังการ Rebound ต่อ: แรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน Brent กดดันดัชนีไม่ปรับตัวขึ้นต่อ โดยตลอดทั้ง 3 วันที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวในกรอบ แต่ที่แนวรับ 1630 ยังคงมีแรงซื้อกลับได้ดี จึงยังมุมมองเดิมว่าดัชนีได้ Break Neckline ของรูปแบบ Double Bottom และมีแนวโน้ม Sideway Up มองแนวต้านถัดไปที่ 1650 และ 1665 ตามลำดับ แต่หากดัชนีหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1630-1665 และพิจาณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆ หากหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น : เล่น Rebound ในกรอบ 1630-1665 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ เพื่อเล่นรอบ
แนวรับ : 1620, 1630 แนวต้าน : 1650, 1665
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war / 13 ก.ค.จีนรายงานตัวเลขการค้า
ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์หน้าติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นเทคนิค:
MTC (B 35.00-36.00, Tp 40.00// 43.00, Cut 34.50)
BANPU (B 20.40, Tp 21.50, Cut 20.00)
ข่าวเด่น