ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
ปรับขึ้น ปัจจัยภายนอกดีขึ้นอีกครั้ง
KGI คาด SET Index วันศุกร์ปรับขึ้น หลังตลาดการเงินโลกคลายกังวลต่อสงครามการค้า ตามข่าวที่ออกมาระหว่างเทรดเมื่อวานนี้ (และได้หนุนหุ้นเอเชียรวมทั้ง SET Index ฟื้นตัวเมื่อวานบ่าย) i) กระทรวงพาณิชย์จีนได้แถลงข้อเสนอให้สหรัฐฯ กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งขณะที่ทางการสหรัฐฯ ก็แถลงพร้อมเจรจารอบใหม่เช่นกัน ซึ่งเพิ่มความหวังกับตลาดว่ามาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจีน 2 แสนล้านเหรียญฯ จะไม่ถูกใช้จริง...หรือถึงใช้ก็จะมีมาตรการที่เล็กลงกว่าปัจจุบัน ii) วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติแก้ไขข้อบังคับให้สภาคองเกรสต้องเห็นชอบมาตรการภาษีกับประเทศอื่นๆ (จากเดิมที่เป็นอำนาจโดยตรงของประธานาธิบดี... ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวต้องรอเข้าสภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ อีกครั้ง และยังคงไม่มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน) นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศเป็นบวกเช่นกัน เมื่อวานนี้ที่ประชุม สนช. ลงมติคัดเลือกกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ 5 คน จากที่เสนอขึ้นมา 7 คน ซึ่งเพียงพอที่จะเปิดประชุม สรรหาประธาน กกต. เพื่อเตรียมจัดการเลือกตั้งในปี 2562 ตามโรดแมป น่าจะเป็นบวกต่อหุ้นที่เชื่อมโยงต่อความเชื่อมั่นภายในประเทศ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
ซื้อเก็งกำไร SGP*, COM7*, SIMAT
SGP* (ยังไม่มีเป้าใน Consensus) 1) ประเมินแนวรับ 10.6 บาท และ 10.4 บาท / แนวต้าน 11.2 - 11.8 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 10 บาท) 2) ราคาแก็ส LPG ในตลาดโลกเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 560 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน เพิ่มขึ้น +16.7% QTD (เทียบกับใน 1Q61 ที่ราคาแก็ส LPG ลดลง 17.2% QTD แล้วมีกำไรสุทธิราว +100 ล้านบาท) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะ Turnaround จากขาดทุนสุทธิ -66 ล้านบาทใน 2Q60 และเติบโตเด่นจาก 1Q61
COM7* (เป้า Consensus 21.07 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.6 บาท และ 17.4 บาท / แนวต้าน 18.5 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 17.1 บาท) 2) ในเชิงพื้นฐาน เรายังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเป็นบวก YoY ต่อเนื่องใน 2Q61 - 3Q61 และโตเด่นแบบ YoY, QoQ ใน 4Q61 ที่เป็น High season โดยได้แรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง + การเป็นพันธมิตรกับ KBANK* (เปิดแฟรนไชส์ Banana IT) และเป็นพันธมิตรกับ TRUE* (บริหารร้าน True shop) ... Consensus คาดกำไร 2Q61 โต +40% YoY ซึ่งหากทำได้ตามคาด มีโอกาสที่ Consensus จะปรับประมาณการฯทั้งปีขึ้น
SIMAT (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.66 บาท / แนวต้าน 2.82 - 3.06 บาท (Stop loss 2.54 บาท) 2) ประเมิน Earnings momentum จะเป็นขาขึ้นอย่างน้อย 2-3 ไตรมาสติด โดย i) 2Q61 จะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจ ฮินซิซึ ตั้งแต่เดือน มิ.ย. (ปี 2560 บ.ฮินซิซึ มีกำไรทั้งปี 37 ล้านบาท) ii) ธุรกิจให้บริการอินเตอร์เนตจะเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการในอาคาร (B to B) และ 3Q61 จะเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการร่วมกับเคเบิ้ลท้องถิ่นที่เป็นพันธมิตร iii) 2Q61 รับรู้รายได้โครงการจัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์กระทรวงศึกษาฯ ประเทศมาเลเซีย 280 ล้านบาท
หุ้นในกระแส
หุ้นที่ถูกขายชอร์ตปริมาณมากลุ้นถูกซื้อคืนปิดสถานะ เราประเมินหากวันนี้ SET index ยืนเหนือ 1640 จุดได้ จะเริ่มพ้นจากแนวโน้มขาลง ทำให้นักลงทุนที่ทำธุรกิจขายชอร์ตในช่วงที่ผ่านมา อาจต้องพิจารณาซื้อคืนปิดสถานะชอร์ต โดยเฉพาะในรายหุ้นที่มีโอกาส Breakout แนวต้านขึ้นไปได้ และมีธุรกิจขายชอร์ตปริมาณมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น BEAUTY*, IVL*, TOP*, TRUE*, WHA*, ADVANC* ดังนั้นอาจพิจารณาเป็นโอกาสในการเก็งกำไรสั้น หุ้นกลุ่มเหล่านี้
หุ้นมีข่าว
(+ กลุ่มสื่อ) โฆษณา มิ.ย.โต 14% ทีวีดิจิทัลฟื้นพุ่งสูงสุด (โพสต์ทูเดย์) นีลเส็น เผยเม็ดเงินโฆษณาเดือน มิ.ย.มีอัตราการเติบโตสูงถึง 14.35% ส่งผลให้ภาพรวม 6 เดือน ติดลบเหลือเพียง 1.59% บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาในช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเติบโตสูงถึง 14.35% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 9,549 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 8,351 ล้านบาท ถือเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
(+) NWR ชนะรับเงิน 288 ล.คดีคลองด่าน (โพสต์ทูเดย์) เนาวรัตน์พัฒนาการรับเงินชนะคดีคลองด่าน 288 ล้านแล้ว จากกลุ่มวิจิตรภัณฑ์และพวก 5 ราย ลุ้นคดีกับพรีเมียร์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ น.ส.ผกาทิพย์ โลพันธ์ศรี กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับชำระเงินจำนวน 288.54 ล้านบาท จากการชนะคดีตามคำพิพากษาของศาลฎีกาในโครงการระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จ.สมุทรปราการ (คดีคลองด่าน) จาก บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง และพวก 5 ราย เรียบร้อยแล้ว
(0) AOT* ชี้เรือล่มกระทบท่องเที่ยวระยะสั้น (ไทยโพสต์) AOT* เชื่อเรือล่มกระทบท่องเที่ยวภูเก็ตระยะสั้น 2-3 เดือน มั่นใจทั้งปีมียอดใช้สนามบินโตเฉียด 10% เตรียมงบ 300-400 ล้านบาทจัดทำดิจิทัลแพลตฟอร์ม
(+) EA* เซ็น MOU2 ยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้ ลุยลงทุนพลังงานหมุนเวียนอาเซียน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) พลังงานบริสุทธิ์ จรดปากกาเซ็นเอ็มโอยูกับ KEPCO KDN และ ILJIN Power กลุ่มยักษ์ใหญ่ธุรกิจไฟฟ้าในเกาหลีใต้ เพื่อร่วมกันขยายการลงทุน Renewable Energy ในไทยและภูมิภาคอาเซียน ตอกย้ำความเชื่อมั่นที่มีต่อ EA* ในฐานะผู้นำด้านพลังงานทดแทนของไทยที่มีการใช้นวัตกรรมที่ก้าวล้ำนำสมัย
(+) COM7* ยอดขายสมาร์ตโฟนพีก หนุนงบไตรมาส 2 กำไรโตสวย 175 ล้าน (ข่าวหุ้น) COM7* ไตรมาส 2 ลุ้นฟันกำไรสวย 175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากปีก่อน ยอดขายสมาร์ตโฟนทะลัก วงการเงินชี้ภาพรวมตลาดมีสิทธิปรับฐานกำไรปี 2561 โตแตะ 800 ล้านบาท ธุรกิจครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง
(0) DDD ปัดข่าวถูกตรวจสอบ 'สราวุฒิ’ ยันไม่ขายหุ้น มั่นใจธุรกิจมีศักยภาพโต (ข่าวหุ้น) DDD ปัดข่าวลือถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ และก.ล.ต.ตรวจสอบออเดอร์รายได้ปลอม และการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ฟาก “สราวุฒิ” ไม่ขายหุ้น ส่งซิกอาจซื้อหุ้นเพิ่มในอนาคต มั่นใจบริษัทมีศักยภาพเติบโต
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
BANPU* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) ประเมินแนวรับ 20.4 บาท และ 20.2 บาท / แนวต้าน 21.5 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 20.1 บาท)
SCCC (เป้าพื้นฐาน 310 บาท) ประเมินแนวรับ 206 บาท / แนวต้าน 215 - 230 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 204 บาท)
BBL* (เป้าพื้นฐาน 240 บาท) ประเมินแนวรับ 192 บาท / แนวต้าน 198 - 200 บาท (Stop loss 192 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 7.95 บาท) ประเมินแนวรับ 6.25 บาท / แนวต้าน 6.6 - 6.7 บาท (Stop loss 6.10 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TISCO* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 118 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้จากผู้บริหารชี้ว่ากระแส NPL เกิดใหม่ก้อนใหญ่ใน 2Q61 มาจากบัญชีลูกหนี้เฉพาะราย ในขณะที่ NPL เกิดใหม่โดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำอยู่ เนื่องจากบริษัทมีการตั้งสำรองก้อนใหญ่ไว้รองรับอยู่แล้ว NPL ที่เพิ่มขึ้นจึงไม่น่าจะส่งผลกระทบกับแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ สำหรับในระยะต่อไป ธนาคารยังมีมุมมองบวกต่อธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ yield สูงซึ่ง margin สูงกว่าสินเชื่อกลุ่มอื่นถึงเท่าตัว ซึ่งการขยายตัวของสินเชื่อกลุ่มนี้ และสัญญาณที่ดีของการเพิ่มสินเชื่อ H/P ใหม่ที่คิดดอกเบี้ยแบบ flat rate ชี้ว่าบริษัทน่าจะบริหาร NIM ได้ดีขึ้นภายใต้ภาวะที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะขยับสูงขึ้น
ROBINS* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 85 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q61 = 681 ล้านบาท (+13.4% YoY, -10.6% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจาก i) SSSG ที่ +0.5% ii) การเปิดห้างใหม่สามแห่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา iii) GPM จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 10bps เป็น 24.8% จากการที่มียอดขายสินค้า house brand เพิ่มขึ้น iv) ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก Super Sport และ Power Buy และ v) รายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นถึง 12% จากการที่ occupancy rate สูงถึง 98% และพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น ขณะที่คาดกำไรลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
EKH แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 7 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q61 = 23 ล้านบาท (+95.5% YoY, +4.7% QoQ) และประเมินว่าจะมีผู้ป่วยประเภทที่ intensity สูงขึ้นมาใช้บริการตั้งแต่ 3Q ไป ซึ่งสะท้อนถึงการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลใน 2H
EPG* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q61 = 268 ล้านบาท (-9% YoY, +20% QoQ) จากยอดขายและอัตรากำไรที่ฟื้นตัวในทุกสายธุรกิจ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่วันที่นัยรับ 1636 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1636 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1635-1660 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1636 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1636-1622 จุด
แนวรับวันนี้: 1636/1626 แนวต้านวันนี้: 1646/1657
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
ข่าวเด่น