ปัจจัยต่างประเทศ: Dow Jones ปิดบวก 44.95 จุด จากแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารหลัง Bank of america เปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าที่ตลาดคาด
Daily Strategy
เรามอง SET INDEX แกว่งตัวไร้ทิศทางในกรอบ 1622 - 1635 เพื่อรอผลการประชุมของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐที่มีกำหนดแถลงการณ์ครึ่งปีในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทยเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาครองเกรส รวมถึงผลการประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลประกอบวิชาชีพ (กกบ.) ในวันนี้หารือเกี่ยวกับมาตรฐานบัญชีใหม่อย่าง IFRS9 ว่าจะเลื่อนการประกาศใช้ออกไปจากกำหนดเดิมหรือไม่ ซึ่งเดิมทีมีแผนจะประกาศใช้ใน 1 ม.ค. 62 เรามองว่าหากเลื่อนประกาศใช้ออกไปมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มสถาบันการเงินทั้งหลาย แต่หากไม่ประกาศเลื่อนออกไปก็คาดว่าจะกระทบไม่มากเนื่องจากหลายสถาบันการเงินหลายแห่งได้เตรียมความพร้อมในการตั้งสำรองไปก่อนหน้านี้แล้วในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเราแนะนำหุ้น ที่มีระดับ Valuation อยู่ในเกณฑ์ต่ำพร้อมจ่ายปันผลระหว่างสม่ำเสมอ (QH GLOW LH SCC) และเก็งกำไรหุ้นที่ Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการจะเติบโตทั้ง QoQ YoY (AP BJC MTC IVL PLANB) รวมถึงกลุ่มสายการบิน (AAV BA THAI) หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงกว่า 4.6% เนื่องจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ผ่อนผันให้ประเทศต่างๆสามารถซื้อน้ำมันอิหร่านได้แม้สหรัฐจะมีการคว่ำบาตรอิหร่านก็ตาม
Stock Pick By CGS
STEC (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 22 บาท) เราคาดว่ารายได้จากนี้จะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฐาน Backlog ที่มีอยู่กว่า 1.25 แสนล้านบาทเพียงพอกับรายได้ที่เราประเมินไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้มองว่าการที่บริษัทเป็นผู้รับเหมาขนาดใหญ่ที่พร้อมจะเข้าประมูลงานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะออกมา โดยเฉพาะงานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หรือแม้กระทั่งงานรถไฟฟ้าในกรุงเทพและงานรถไฟทางคู่ที่เหลือ
PLANB (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 8.1 บาท) เราคาดกำไรสุทธิจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 27% ในปี 18E-20E หนุนจากการขยายเครือข่ายสื่อนอกบ้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอัตราการเข้าใช้สื่อของบริษัทจะกลับมาเป็นขาขึ้นจากอานิสงค์ของการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้บริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้นใน BMN (19.5%) BNK48 (35%) ใน 2Q18 และ 3Q18 ตามลำดับ ทั้งนี้เราคาดส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจะเติบโต 113% CAGR ในปี 18E-20E
ข่าวเด่น