“ น้ำมันลงแรง ” 

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรง -15.83 จุด (-0.96%) ปิดที่ 1,627 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างบางเพียง 36,583 ล้านบาท สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นเอเชียที่อ่อนตัวลงจากความกังวล Trade war ซึ่งกดดันให้ Fund flow ต่างชาติยังคงไหลออก นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงมาจากความกังวลในส่วนของงบ 2Q18 รายตัวที่คาดว่าจะหดตัวลง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 อีก 760 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรเล็กน้อย 123 ล้านบาท และ Net Long TFEX 2,455 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : เรามีมุมมองเป็นลบ คาดดัชนีอ่อนตัวทดสอบ 1,618 – 1,623 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ จากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงราว 4% หลังสหรัฐผ่อนผันให้บางประเทศสามารถซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ต่อไปแม้ว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านก็ตาม นอกจากนี้ Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่อง (Net sell 1.9 แสนลบ. YTD.) จากความกังวล Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งเป็น 4 ครั้งในปีนี้ และ Trade war ที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกซึ่งเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาด อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะมีสลับเด้งรีบาวด์ในจังหวะที่อ่อนตัวได้จากการซื้อดักผลประกอบการ 2Q18 ที่กำลังจะทยอยประกาศนำโดยกลุ่ม BANK ในสัปดาห์นี้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
  ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร (BBL, TMB และ KKP) ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในครึ่งปีหลัง
  PSL อานิสงส์ค่าระวางเรือทำ High ในรอบ 8 เดือนล่าสุด 1,695 จุด
  กลุ่มที่ได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า (KCE, HANA, SVI, CPF, GFPT และ TU)
  BANPU, LANNA ราคาถ่านหินปรับขึ้นทำ New High ในรอบ 6 ปีครึ่งล่าสุด 118.2 US/Ton
  กลุ่มปันผลครึ่งปีเด่น ADVANC, INTUCH, KKP, QH, LH และ SPALI

หุ้นแนะนำวันนี้ : EPG (ปิด 8.05 ซื้อ/เป้า 9) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และเป็นหุ้นที่ได้ผลบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และค่าเงินบาทอ่อนค่า, PSL (ปิด 12.5 ซื้อ/เป้า 17) คาดผลประกอบการ 2Q18 ทำกำไรต่อเนื่องจากแรงหนุนของดัชนีค่าระวางเรือที่สูงขึ้น ขณะที่วันนี้ยังได้ Sentiment บวกจากดัชนีค่าระวางเรือ BDI Index ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,695 จุด สูงสุดในรอบ 8 เดือน, CPF (ปิด 26.25 ซื้อ/เป้า 28) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : DTAC (ปิด 38 ซื้อ/เป้าใหม่ 49 จาก 58), GCAP (ปิด 4.48 ซื้อ/เป้าใหม่ 6.6 จาก 8), KTC (ปิด 23.1 อัพเกรดเป็นซื้อ/เป้า 34)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                 
  (-) เศรษฐกิจจีนชะลอตัวในไตรมาส 2 ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปี สร้างความกังวลให้กับตลาดต่อผลกระทบของสงครามการค้ามากขึ้นอีก : วานนี้จีนประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/18 ขยายตัวเพียง 6.7% ลดลงจากไตรมาส 1/18 ที่ขยายตัว 6.8% นอกจากนี้จีนยังประกาศตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.ออกมาขยายตัวเพียง 6% นับเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ ยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับตลาดต่อประเด็นสงครามการค้าซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ GDP ของอเมริกาและจีน และจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อกลุ่มประเทศห่วงโซ่เศรษฐกิจและจะกดดันให้ Word GDP หดตัวลงในที่สุด 
  (-) สหรัฐประกาศผ่อนผันให้ประเทศต่างๆซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ กดราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงกว่า 2.95 $/bbl : ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจากระดับ 65$/bbl ไปแตะระดับ 75$/bbl ส่วนหนึ่งเป็นผลจากตลาดวิตกกังวลว่าจะเกิดภาวะอุปทานตึงตัวในตลาดน้ำมัน หลังจากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่  พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ และบริษัทน้ำมัน ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. แต่วานนี้สหรัฐกลับลำด้วยการประกาศผ่อนผันให้ประเทศต่างๆสามารถซื้อน้ำมันอิหร่านต่อไปได้ เท่ากับช่วยคลายกังวลให้กับตลาดต่อโอกาสที่จะเกิดภาวะอุปทานตึงตัว
  (+/-) กลุ่มธนาคาร และ ไฟแนนซ์ วันนี้ติดตามการประชุม กกบ.ต่อประเด็นการบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS9) ขณะที่ภาคเอกชนยังเห็นต่าง : วันนี้เป็นวันที่ กกบ.ต้องตัดสินแล้วว่ามาตรฐานการบัญชีใหม่ (IFRS9) จะบังคับใช้ตามกำหนดเวลาเดิมคือ 1 ม.ค.2562 หรือจะเลื่อนการบังคับใช้ออกไปก่อน เนื่องจากในมุมของภาคเอกชนยังมีความเห็นต่าง โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เสนอให้เลื่อนการบังคับใช้ IFRS9 ออกไปเนื่องจากกังวลว่าจะกระทบต่อสินเชื่อภาคเศรษฐกิจขนาดกลางถึงเล็ก แต่วานนี้สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) มีมติไม่เห็นด้วยที่จะเลื่อนการบังคับใช้เนื่องจากกังวลว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยเฉพาะประเด็นการกำกับดูแลสถาบันการเงินของประเทศไทย